ช่องทางอื่นก็มี ดูเหมือนว่าตำแหน่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปรารถนาเสริมกองทัพสูงที่สุดปัจจุบันนี้อาจจะหนีไม่พ้น “กองกลางตัวรับ”
ช่องทางอื่นก็มี ดูเหมือนว่าตำแหน่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปรารถนาเสริมกองทัพสูงที่สุดปัจจุบันนี้อาจจะหนีไม่พ้น “กองกลางตัวรับ” เพราะเหตุว่านี่คือตัวต่อที่คงจะชี้ชะตาการบรรลุผลของกองทัพ “ปีศาจแดง” ในอนาคตอย่างยิ่งจริงๆ
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พยายามอย่างมากที่จะคลำหาผู้เล่นตำแหน่งนี้เนื่องมาจากที่มีอยู่ในขณะนี้ทั้งยัง เนมานย่า มาติช กับ เฟร็ด ที่ลงปฏิบัติหน้าที่ดังที่กล่าวมาแล้ว โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง และไม่สามารถพึ่งได้เลย
แน่นอนว่าในตอนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาชื่อของ เดแคลุกลน ไรซ์ กองกลางเวสต์แฮมยูไนเต็ด กับ คาลวิน ฟิลลิปส์ห้องเครื่องลีดส์ยูไนเต็ด ได้รับการวิงวอนจากสาวก “เร้ด อาร์มี่” ให้สโมสรคว้าผู้ใดผู้หนึ่งมาเสริมกองทัพให้ได้
แม้กระนั้นด้วยเหตุการณ์ของ 2 ลำแข้งที่ยังมีสัญญาผูกมัดกับสังกัดเดิม และก็ค่าตอบแทนที่แพงเอาการ งานนี้ แมนฯ ยูฯ ยังมีทางเลือกที่น่าดึงดูดอีกรายซึ่งก็คือ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้กองกลางชั้นดีของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีความสามารถไม่ด้อยไปกว่าไรซ์ แล้วก็ฟิลลิปส์
เอ็นดิดี้ทำผลงานได้อย่างเด่นกับ “จิ้งจอกสยาม” ในตอนหลายฤดูกาลก่อนหน้าที่ผ่านมา แม้กระนั้นดูเหมือนกับว่าเขาอยากได้ที่จะโบกมือลาสมาคม ด้วยเหตุว่าผิดหวังที่่ไม่ค่อยได้ลงเล่นตัวจริงในช่วงฤดูกาล 2021/2022
นอกเหนือจากนั้นผลงานของ เลสเตอร์ ในเวลานี้ก็ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากว่าพวกเขาหล่นไปอยู่ในชั้น 13 ของตารางลีก แล้วก็ยังไม่สามารถที่จะชนะคนใดได้เลยเกมลีก 4 แมตช์ต่อเนื่องกัน นั่นทำให้นักฟุตบอลเริ่มคิดเกี่ยวกับการออกไปหาประสบการณ์ใหม่
หลายท่านบางครั้งอาจจะรู้สึกว่าเอ็นดิดี้ คงจะมีประสิทธิภาพด้อยกว่าไรซ์ และก็ฟิลลิปส์ แม้กระนั้นขอบอกว่าผลงานของ กองกลางทีมชาติไนจีเรีย ไม่ธรรมดาอย่างยิ่งจริงๆ ยิ่งถ้าเกิดอยู่ในตอนท็อปฟอร์มเขาก็ไม่เป็นสองรองคนใดกันแน่ในตำแหน่งนี้
โดยเหตุนี้มาดูเหตุผลกันว่าเพราะอะไร ตัวรุกวัย 24 ปีถึงเหมาะสมกับ “ปีศาจแดง” ประสบการณ์ในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรป เอ็นดิดี้นับว่าเป็นนักฟุตบอลที่ผ่านสนามรบการฟาดลำแข้งที่เขี้ยวลากดินอย่างในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
รวมทั้งยูฟ่า ยูโรปา ลีก มาแล้ว ซึ่งทำให้เห็นว่าเขาได้พิสูจน์ผลงานของตัวเองในระดับเวทีใหญ่สุดในวงการลูกหนังระดับสโมสร ภายหลังจากย้ายมาในเดือนมกราคม 2017 กองกลางชาวไนจีเรีย สามารถลงไปในสนามในตำแหน่งตัวจริงให้กับกองทัพ
“เดอะ ฟ็อกซ์” ได้ในทันทีสำหรับในการลงไปในสนามเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมในที่สุด ปะทะ เซบีย่า กองกลางวัย 24 ปี ได้ลงเล่นให้กับสังกัดเดิมมาตลอดจนจนกระทั่งทีมร่วงไม่เข้ารอบการชิงชัยโทรฟี่ “บิ๊กเอียร์”
ด้วยฝีเท้าของ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด เวลาเดียวกันเขายังได้โอกาสลงไปในสนามถึง 11 แมตช์สำหรับในการเล่น ยูโรปา ลีก อีกทั้งกับ เลสเตอร์ และก็ เคอาร์ซี เกงค์ในลีกเบลเยียม สำหรับ ฟิลลิปส์จัดว่าเสียเปรียบเป็นอย่างมาก
ช่องทางอื่นก็มี เนื่องจากไม่เคยได้ลงเล่นในเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปทุกรายการ ส่วนไรซ์ ได้โอกาสได้สัมผัสบรรยากาศเกมกึ่งกลางอาทิตย์ในศึกยูโรปา ลีก ในฤดูกาลนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกของเขา แม้กระนั้นสำหรับ แชมเปี้ยนส์ ลีก เจ้าตัวก็ไม่เคยได้ลิ้มรสเช่นเดียวกัน ข่าวบอล
เหตุว่านี่คือตัวต่อที่คงจะชี้ชะตาการบรรลุผลของกองทัพ “ปีศาจแดง” ในอนาคตอย่างยิ่งจริงๆ
ช่องทางอื่นก็มี ไม่มีการเจรจาเรื่องขยายสัญญาใหม่ไรซ์, ฟิลลิปส์และ เอ็นดีดี้ มีสัญญาปัจจุบันกับต้นสังกัดจนถึงเดือนมิถุนายน 2024 อย่างไรก็ตาม เวสต์แฮม มีออปชั่นที่สามารถขยายสัญญากับไรซ์ ได้แบบอัตโนมัติ 1 ปี
ซึ่งนั่นทำให้แมนฯยูไนเต็ด ต้องคิดหนักเพราะจะต้องทุ่มเงินสูงมากหากต้องการได้ตัวเขามาร่วมทีม นอกจากนี้ สองกองกลางทีมชาติอังกฤษ ยังตกเป็นข่าวมาตลอดว่ากำลังเจรจาเรื่องการขยายสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรของพวกเขา
แถมสื่อบางฉบับยังอ้างว่าตอนนี้ ไรซ์จ่อที่จะต่อสัญญากับ “ขุนค้อน” มะรอมมะร่ออยู่แล้ว เช่นเดียวกับกรณีของฟิลลิปส์ ที่ตอนนี้มีรายงานอย่างต่อเนื่องว่าการเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่ของนักเตะก้าวหน้าไปมาก
และมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะอยู่ในถิ่นเอลแลนด์ โร้ด ต่อไป ที่สำคัญเรื่องนี้คาดว่าน่าจะได้บทสรุปก่อนสิ้นปีนี้ด้วยซ้ำ สวนทางกับในกรณีของเอ็นดิดี้ เพราะตอนนี้นักเตะกำลังพิจารณาที่จะย้ายทีม ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีความเป็นไปได้สูง
เขาสามารถย้ายมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้มากกว่า ไรซ์หรือ ฟิลลิปส์ค่าเฉลี่ยการสกัดและตัดบอลสูง โซลชา ยังไม่สามารถหาผู้เล่นที่เขาต้องการเพื่อมาทำหน้าที่กองกลางตัวรับเนื่องจากทั้ง เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ หรือ มาติช ยังไม่ใช่นักเตะที่ “น้าลูกอม” ไว้วางใจให้มายืนหน้าแผงแบ็กโฟร์
“ผีแดง” มีสถิติเกมรับย่ำแย่ที่สุดเท่ากับ ลิเวอร์พูล ในบรรดาทีมท็อปโฟร์ตอนนี้ โดยพวกเขาเสียประตูไปแล้ว 6 ประตู ฉะนั้นนี่คือปัญหาที่ โซลชา ต้องรีบแก้ไข เพราะการที่แดนกลางไม่สามารถตัดเกมคู่แข่งได้ ส่งผลให้กองหลังต้องทำงานหนัก และนำไปสู่การเสียประตูอย่างต่อเนื่อง
ผลงานของเอ็นดิดี้ น่าจะทำให้ โซลชา สามารถไว้วางใจให้คอยทำหน้าที่ปัดกวาดเช็ดถูในแผงมิดฟิลด์ก่อนที่จะมาถึงแนวรับ เพราะเขามีสถิตที่ยอดเยี่ยมมากๆ ในการตัดบอลจากคู่แข่งซึ่งเหลือกว่าไรซ์หรือ ฟิลลิปส์เลยทีเดียว
ดาวเตะชาวไนจีเรีย มีสถิติเสียบสกัดสำหรับ 3 ครั้ง และตัดบอลเฉลี่ยแล้ว 2.5 เปอร์เซนต์ในการลงสนามทุกๆ 90 นาที โดยในเรื่องการเสียบสกัดเหนือกว่า ไรซ์กับฟิลลิปส์ ถึง 1.1 และ 0.7 ขณะที่การตัดบอลก็เหนือกว่า 0.5 และ 1.7 ตามลำดับ
ฉะนั้นหากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ต้องการผู้เล่นที่สามารถควบคุมเกมและยังสามารช่วยเกมรับได้เหนียวแน่น แน่นอนว่าชื่อของ เอ็นดิดี้น่าจะเป็นคำตอบที่เหมาะสมสำหรับทีมในเวลานี้เลยจริงๆ พร้อมย้ายทันทีแถมค่าตัวถูกอีกต่างหาก
อย่างที่เกริ่นไปในช่วงต้นว่าไรซ์กับฟิลลิปส์ ดูเหมือนจะยังรู้สึกมีความสุขกับการเล่นให้กับต้นสังกัดในปัจจุบันของพวกเขา และยังมีข่าวเรื่องการเจรจาเพื่อขยายสัญญาฉบับใหม่อย่างต่อเนื่อง สวนทางกับเอ็นดิดี้ มีอนาคตของเขากับ เลสเตอร์ ดูเหมือนจะสั่นคลอนเต็มที
ไม่น่าเป็นไปได้ที่ฟิลลิปส์ จะเก็บเสื้อผ้าหนีออก จากลีดส์ยูไนเต็ด เพื่อไปเล่นให้กับ แมนฯ ยูฯ เนื่องจากทั้งสองสโมสรเป็นคู่อริกันแต่ชาติปางก่อน และการทำแบบนั้นเหมือนเป็นการหักหาญน้ำใจของสาวก “ยูงทอง”
ซึ่งเคยต้องเจ็บปวดกับอดีตนักเตะอย่าง เอริก คันโตน่า, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ อลัน สมิธ ที่ทิ้งเสื้อขาวไปใส่เสื้อสีแดงมาแล้ว ขณะที่ ไรซ์อาจมีความเป็นไปได้เช่นกันที่เขาจะเลือกเดินออกจากถิ่นลอนดอน สเตเดี้ยม เพื่อไปหาความสำเร็จกับสโมสรใหญ่
แต่งานนี้ทีมของกุนซือเดวิด มอยส์ ไม่ยอมง่ายๆ แน่นอน เพราะหากต้องเสียเขาไปก็ต้องได้อะไรตอบแทนกลับมา ซึ่งว่ากันว่าพวกเขาตั้งค่าตัวของนักเตะเอาไว้สูงถึง 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,400 ล้านบาท) เลยทีเดียว
ช่องทางอื่นก็มี ด้วยเม็ดเงินที่ แมนฯ ยูฯ ลงทุนไปในช่วงซัมเมอร์ล่าสุด แน่นอนว่าพวกเขาคงไม่อยากที่จะเสียเงินเยอะในระดับ 100 ล้านปอนด์เพื่อนักเตะแค่คนเดียว ฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะเลือกดึงเอ็นดิดี้ ที่น่าจะมีค่าตัวถูกกว่าเยอะ มาเสริมทัพ อัปเดตอาการ