มาร์ติเนซใจเพชร ผู้รักษาประตูตัวสำรองปืนใหญ่ ที่อดทนรอคอยกว่าจะได้ลงสนาม

มาร์ติเนซใจเพชร หนุ่มน้อยจากเมืองมาร์ เดล พลาตา ประเทศอาร์เจนติน่า จำต้องจำยอมทิ้งครอบครัว จากภูมิลำเนาเพื่อบินผ่านน้ำผ่านมหาสมุทร มายังเกาะอังกฤษในวัยเพียงแค่ 17 ปี เพียงเท่านั้น โดยเหตุผลสำคัญเป็นเพื่อหารายได้มาให้ครอบครัว ที่มีปัญหาการเงินอย่างมาก หลังถูก อาร์เซน่อล ทาบทามดึงตัวจาก อินดิเพนเดนเต้

ทีมในลีกรกราก เมื่อปี 2010 การได้รับโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ นั้นเป็นสิ่งที่นักเตะต้องการของทุกคน แต่ว่าไม่ใช่สำหรับนักฟุตบอลในตำแหน่งผู้เฝ้าประตูผู้เล่นสำรอง ที่โดยมากจำเป็นต้องนั่งรอจังหวะจากข้างสนาม ถ้าหากโชคดีหน่อยก็บางทีอาจได้รับจังหวะ ลงเล่นในบอลถ้วยบ้างกระจาย อย่างไรก็ดีสิ่งนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นกับชายที่ชื่อว่า

เอมิเลียโน่มาร์ติเนซ ผู้เฝ้าประตูชาวอาร์เจนไตน์ของ อาร์เซน่อล ที่รอคอยจังหวะบนม้านั่งสำรองนานนับทศวรรษ ก่อนที่จะเป็นข้อสำคัญช่วย อาร์เซน่อล เถลิงแชมป์เอฟเอ คัพ ฤดูนี้ไดเสร็จ ซูซาน่า แม่ของผมและก็ อเลฮานโดร พี่ชายพากันร้องไห้เมื่อผมตกลงจะมาค้าลำแข้งที่ลอนดอน และก็ได้แต่ว่าอ้อนวอนผมว่าอย่าไป แต่ว่าในเวลาเดียวกัน

มันเป็นสิ่งที่ผมจะต้องตกลง เนื่องจากว่าผมมองเห็น อัลกางร์โต้ บิดาของผมร้องไห้ยามดึกดื่นอยู่เสมอๆ จากการขาดเงินที่จะใช้จ่ายหัวข้อต่างๆข้างในบ้าน ในตอนนั้นผมจะต้องพักอยู่ในบัวโนสไอเรส ในตอนที่เล่นให้สมาคม อินดิเพนเดนเต้ แล้วก็ได้เจอหน้าครอบครัวเพียงแค่สองครั้งต่อเดือน เพราะว่าไม่อาจจะจ่ายค่าเดินทาง ให้ครอบครัว

จากบ้านใน มาร์ เดล พลาต้า ซึ่งอยู่ห่างราว 400 กิโล ได้ รวมทั้งนี่เป็นเหตุผลสำคัญเมื่อ อาร์เซน่อล มอบโอกาสให้ผมก็เลยจะต้องรีบคว้ามันไว้ มาร์ติเนซย้อนเรื่องในอดีตในวันที่ตกลงย้ายมาเล่นให้อาร์เซน่อล ทางกับ ปืนใหญ่ ของมือกาวชาวอาร์เจนไตน์เขาต้องฝ่าฟัน มรสุมมากไม่น้อยเลยทีเดียวกว่าใกล้จะถึงวันนี้ ตั้งแต่แมื่อก้าวขึ้นสู่

ทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2012 เจ้าตัวแทบจะไม่มีหน้าที่กับทีมเลย จนกระทั่งถูกปลดปล่อยให้ทีมอื่น ยืมใช้งานเป็นว่าเล่นไล่ตั้งแต่ อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ร็อตเตอร์ ยูไนเต็ด วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เคตาเฟ่ และก็ เร้ดดิ้ง สถานะในทีมจำนวนมากของ มาร์ติเนซเป็นตั้งแต่มือ 2 มือ 3 จนกระทั่งหลุดไปถึงมือ 4 ก็มี โดยเคยอยู่

ภายใต้ร่มเงาทั้งยัง มานูเอล อามูเนีย วีโต้ มานโนเน่ ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ วอยเชียค เชสนี่ ดาวิด ออสปิน่า ปีเตอร์ เช็ค แล้วก็ แบรนด์ เลโน่ กว่าที่ มาร์ติเนซจะได้ลงเปิดฉากสนามในเกมใหญ่ นั้นจำเป็นต้องรอคอยถึงฤดู 2014-15 เริ่มตั้งแต่ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เขาได้ลงเฝ้าเสาในเกมที่อาร์เซน่อล บุกไปเอาชนะ อันเดอร์เลชท์ 2-1

ซึ่งเกมนี้ป๊ะป๋าของเขาได้เดินทางมาดูถึงขอบสนาม ต่อไปหนึ่งเดือน เขาก็ได้รับโอกาสลงเล่น ในศึกพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกโดยถูกส่งลงเล่นแทน เชสนี่ ที่มีลักษณะเจ็บในเกมกับ แมน ยูไนเต็ด ซึ่งทำให้เขาได้รับจังหวะลงเล่นโดยตลอด ช่วยทีมเก็บคลีนชีตสามเกมรวด ชนะ ดอร์ทมุนด์ 2-0 ชนะ เวสต์ บรอม 1-0 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0

มาร์ติเนซใจเพชร

การรอคอยที่แสนนาน ได้รับโอกาสลงเล่นในบอลถ้วย

อย่างไรก็ดีมันก็ไม่พอให้เขายึดมือ 1 ระยะยาวได้จำต้องเลี่ยงทางให้กับ เชสนี่ ที่สลัดการบาดเจ็บกลับมาอีกรอบ ย้อนไปตอนที่เชื้อไวรัสวัววิด-19 กำลังระบาดอย่างมากทั่วทั้งโลก จนกระทั่งทำให้พรีเมียร์ลีก จำต้องหยุดการประลอง พร้อมทำให้บรรดานักฟุตบอล จำเป็นต้องถูกกักบริเวณอยู่ที่บ้าน มาร์ติเนซ กลับยังซ้อมหนักที่บ้านตนเอง

ทั้งๆที่ยังไม่รู้เรื่องว่าจะได้รับ จังหวะลงเล่นในตอนที่เหลือไหม โดย มาร์ติเนซ ได้เผยบทพูดระหว่างเขากับเมียไว้ว่า ผมฝึกฝนอย่างมากระหว่างตอนล็อคดาวน์ จนกระทั่งเมียถามคำถามว่า คุณเป็นผู้รักษาประตูสำรองเพราะเหตุใด ถึงจำต้องซ้อมหนักขนาดนี้? ก่อนที่จะผมจะตอบไปว่า ผมจำต้องทำให้ตนเองพร้อมอยู่ตลอด และก็มั่นใจว่า

เมื่อได้โอกาสผมจะทำมันได้ดิบได้ดีที่สุด และก็เมื่อบอลกลับมาลงแข่งขันได้อีกที ชะตากรรมก็เข้าข้างเขาเสียเชิง ภายหลัง แบรนด์ เลโน่ นายทวารมือชั้นยอดได้รับบาดเจ็บหนักจากเกมเจอ ไบรท์ตัน ซึ่งนับจากเกมนั้นเป็นต้นมา มาร์ตินเซ ก็โชว์ฟอร์มได้สะดุดตาสุดๆพร้อมแปลงเป็นนายประตู ที่มีเปอร์เซ็นต์เซฟลูกยิงตรงกรอบได้เกิน 80%

ตั้งแต่แมื่อได้ลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรกในเกมพบ เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อสิ้นเดือนเดือนมิถุนายน เป็นสถิติมากมายสุดกว่าผู้รักษาประตูรายอื่นๆ กระทั่งเปลี่ยนเป็นฤดูที่เขาสบโอกาส ลงเล่นเยอะที่สุดตั้งแต่แมื่อย้ายมาเล่นให้อาร์เซน่อล จากสถิติลงเล่น 23 เกมทุกรายการ ซึ่งปัจจัยหลักก็เป็นเนื่องจากว่าการที่เขา ฟิตฝึกซ้อมรวมทั้งรักษา

สภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพร้อมสำหรับโอกาสที่ไม่ทราบจะเข้ามาตอนไหน ส่วนผลงานในถ้วยเอฟเอ คัพ มาร์ติเนซ ได้ลงเล่นตั้งแต่รอบ 3 ในเกมที่เอาชนะ ลีดส์ 1-0 เป็นต้นมา แล้วก็ช่วยทีมกรุยมาถึงรอบชิงแชมป์ ก่อนที่จะครอบครองแชมป์ได้เสร็จ “ผมมั่นใจว่าวันนี้เราได้ ทำให้แฟนคลับอาร์เซน่อลภูมิใจแล้ว อยู่กับสโมสร

มาตลอด 10 ปีเพื่อโอกาสนี้ ผมโทรคุยกับครอบครัวมาตลอดทั้งอาทิตย์ รวมทั้งผมกล้ากล่าวได้เลยว่าทุกคนในครอบครัว ที่อาร์เจนติน่ากำลังร้องไห้อยู่แน่ๆ แน่ๆว่าหลังจบเกมสปอร์ตไลท์ต่างส่องแสงไปที่ มาร์ติเนซ โดย ดินแดน วอล์คเกอร์ ผู้รายงานข่าวจากสถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซี สื่อจากอังกฤษได้ถามหาความรู้สึก

แล้วก็ครอบครัว ซึ่งทำให้เขาจะต้องหลั่งน้ำตาออกมา และก็กล่าวเพียงแค่สั้นๆว่า เรื่องครอบครัวของผม ผมพูดไม่ได้จริงๆขออภัยด้วยนะครับ ก่อนที่จะเดินแยกตัวออกไปพร้อมน้ำตา แล้วก็ภาพอันแสนอบอุ่นที่เขานั่งเฉยๆผู้เดียว ที่ข้างสนามกำลังวีดีโอคอลคุยกับครอบครัว รวมทั้งร่ำไห้ออกมาด้วยความปลื้มปิติ วันนี้เขาได้พิสูจน์

ให้ครอบครัวแล้วก็แฟนบอลมองเห็นแล้วว่า 10 ปีที่เขาทรหดอดทนคอยมันไม่ได้เสียเปล่าเลย ชุดขาวยอมจ่าย | ข่าวฟุตบอล