วันที่เจ็บปวด ลุต ชอว์ ยอมรับตัวเองฟอร์มห่วยในนัดที่ทีมโดน ลิเวอร์พูลถล่มยับคาบ้าน
วันที่เจ็บปวด ลุต ชอว์ แบ็กซ้ายของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยอมรับตัวเองฟอร์มห่วยในนัดที่ทีมโดน ลิเวอร์พูลถล่มยับคาบ้าน 0-5 เกมพรีเมียร์ลีก พร้อทปกป้อง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ของทีม วันที่เจ็บปวด
ความพ่ายแพ้จากเกม แดงเดือด ส่งผลงานทัพ ปีศาจแดง โดนวิจารณ์อย่างหนักทั้งจากบรรดากูรูและแฟนบอล ซึ่งทาง ชอว์ ก็ออกมายืดอกยอมรับว่าตัวเองผลงานสุดห่วย พร้อมปกป้อง โซลชา ที่โดนหนักในเรื่องของการวางแท็คติก
ยังไม่ดีพอ ผมรู้ว่าเกมนี้เป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม แต่ผมคิดว่าในเรื่องของรายบุคคลเราต้องรับผิดชอบต่อฟอร์มการเล่นบางอย่างในวันนี้ และนั่นคือสาเหตุที่ผมมาอยู่ที่นี่ตอนนี้ ชอว์ กล่าวผ่านสเตเดี้ยม อาสโตร
ผมไม่ซ่อนตัวหรืออยู่เงียบ ผมก้าวออกมาและพูดว่าผมไม่ดีพอ ผมพูดในนามของตัวเอง ไม่ใช่ทีม ผมรับผิดชอบต่อผลงานของตัวเองและมันไม่ดีพอ
ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดเกี่ยวกับทีม เรารู้ว่าสามารถทำได้ดีกว่านี้ แต่สำหรับผมแล้วผมต้องทำให้ดีกว่าในวันนี้ด้วย นั่นคือเหตุผลที่ผมมาที่นี่ตอนนี้และพูดกับคุณและบอกว่ามันเป็นยังไง
เมื่อถูกถามว่า โซลชา ต้องรับผิดชอบกับแนวทางการเล่นของทีมทาง ชอว์ กล่าวว่า ไม่ อย่างที่ผมบอกไป ผมคิดว่ามันเป็นตัวเราที่ต้องมองตัวเองในกระจกก่อน
เราทำทุกอย่างถูกต้องและเตรียมพร้อมสำหรับเกมด้วยตัวเองดีพอรึยัง แน่นอนว่าต้องมีแท็คติกและผู้จัดการทีมต้องการให้เราเล่นยังไง แต่ผมคิดว่าบางครั้งเราเล่นกันง่ายเกินไป
ยกตัวอย่างประตูแรก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้สามคนวิ่งทะลุเข้ามาในช่วง 5 นาทีแรก เราต้องกระชับมากกว่านี้ เราต้องดีขึ้น เรารู้ดี สิงโตไม่คำราม
ผมคิดว่าบางทีเราอาจจะพูดได้ว่าผลลัพธ์กำลังมา ผมคิดว่าเกมที่ผ่านมาที่เราชนะเรายังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรและเรารู้ดี เรารู้สึกถึงมันในห้องแต่งตัว
วันนี้เราต้องไตร่ตรองและเราต้องเดินหน้ากันต่อเพราะมันน่าเจ็บปวด
แกรี่ เนวิลล์ อดีตกองหลังของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยอมรับว่าช็อกสุดๆที่เห็นทีมเก่าพ่ายแพ้ให้คาบ้านให้กับ ลิเวอร์พูลคาบ้านยับ 0-5 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นาบี เกอิต้า, ดีโอโก้ โชต้า และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (3 ลูก) ช่วยกันทำประตูให้ หงส์แดง บุกชนะถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยเป็นการบุกชนะที่นี่ด้วยสกอร์ที่ดีที่สุดของทีม ซึ่งทาง แกรี่ ยอมรับว่าสุดช็อกกับผลการแข่งขันในเกมนี้และคิดว่าคงไม่มีอะไรที่จะเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว
ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรที่เลวร้ายไปกว่าวันนี้อีก ไม่ว่ามันจะแย่สักแค่ไหนในนัดนี้หรือระยะห่างของสองสโมสรในช่วง 45-50 ปี มันเป็นเกมที่อัดแน่นอยู่เสมอ แกรี่กล่าวผ่านสกาย สปอร์ตส์ นิวส์
วันนี้ มันช็อคสุดๆไปเลย – จังหวะมันไม่น่าจะแย่ไปมากกว่านี้อีกแล้วเพราะตอนนั้นมันสร้างมา 2-3 สัปดาห์แล้วกับสิ่งที่ผมเรียกว่าครึ่งทีมที่ดี ทันทีที่พวกเขาเล่นเป็นทีมที่ดีพวกเขาก็โดนจัดการ ฉีกเป็นชิ้น โดนริ้อกระจุยและผมไม่คิดว่าพวกเขาจะเล่นแบบนั้น ผมคิดว่าพวกเขาจะเปลี่ยนสวิตช์ แต่คุณสามารถเปลี่ยนสวิตช์ได้ในเกมฟุตบอล
กลุ่มนักเตะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแทบไม่วิ่งกัน – พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมที่วิ่งน้อยที่สุดในลีก เรารู้จากสถิติที่เราเห็นในทุกสัปดาห์ และไม่มีอะไรลเวร้ายไปกว่าการบอกว่าคุณเป็นหนึ่งในทีมที่แย่ที่สุดและมันง่ายที่จะต่อกรด้วย นั่นเป็นสิ่งที่สะท้อนความแย่ของผู้จัดการทีม สตาฟฟ์และนักเตะ
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงตัวเก่งของ ลิเวอร์พูลทำสถิติเป็นนักเตะคนแรกที่มาเยือนแล้วยิงแฮตทิรคได้ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
หงส์แดง โชว์ฟอร์มเยี่ยมไล่ถล่ม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถึงรังในเกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วยการถล่ม 5-0 จากประตูของ นาบี เกอิต้า, ดีโอโก้ โชต้า และ ซาลาห์ ที่ทำแฮตทริคในเกมนี้
จากสถิติในเกมนี้ของสตาร์ทีมชาติอียิปต์ทำให้เจ้าตัวเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เป็นนักเตะคู่แข่งแล้วกดแฮตทริคได้ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ส่วนนักเตะคนล่าสุดที่ทำแฮตทริคได้ที่นี่ก่อนที่จะมาเป็น ซาลาห์ คือ โรนัลโด้ อาร์ 9 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อฤดูกาล 2002/03 เลกที่สองที่ เรอัล มาดริด บุกมาแพ้ 3-4 แต่รวมผลสองเกมราชันชุดขาว ชนะ 6-5
ส่วนเกมถัดไป แมนฯยูไนเต็ดจะไปเยือน สเปอร์ส ในสัปดาห์หน้า ส่วน ลิเวอร์พูลจะไปเยือน เปรสตัน ในเกมคาราบาว คัพ ในวันพุธนี้
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดออกโรงขอโทษแฟนบอลหลังถูก ลิเวอร์พูลบุกมาถล่ม 5-0 ในเกมแดงเดือด
แม็กไกวร์ กล่าวหลังเกมว่า เราต้องขอโทษแฟนบอลด้วย เราเล่นได้ไม่ดีพอสำหรับสโมสรนี้ พวกเขาข่มเราตลอดทั้งเกม เรารู้ดี แต่ในฐานะสโมสรเราต้องทำให้ดีขึ้น
ผมผิดหวัง เราเปิดโอกาสให้พวกเขาเยอะมาก พวกเขาจบสกอร์ได้เด็ดขาด เรามีโอกาสของเราเช่นกัน แต่ในฐานะกองหลัง การเสียสี่ประตูในครึ่งแรกโดยเฉพาะใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั่นคือผลงานที่ไม่ดีพอ
เราต้องเกาะกันให้ติด ไม่ใช่เรื่องที่ต้องโทษกันไปมา แต่เรามองทั้งทีม เราต้องกลับบ้านไปส่องกระจกคืนนี้ และคิดว่าอะไรที่จะทำให้เราดีขึ้นกว่านี้
ความพ่ายแพ้ต่อ ลิเวอร์พูลนั้นเจ็บปวดในทุกครั้ง เราโดนนำ 4-0 ในครึ่งแรกต่อหน้าแฟนๆ ผมอยากบอกว่ามันไม่ดีพอ มันไม่ง่ายที่จะพูดสิ่งอื่นนอกจากว่ามันเป็นวันที่มืดมนที่สุดที่ผมเคยนำนักเตะพวกนี้ เราไม่ดีพอทั้งรายคนและการเล่นเป็นทีม
ฟอร์มการเล่นโดยรวมไม่ดีพอ เราไม่ควรเปิดโอกาสให้ ลิเวอร์พูลแบบนี้ พวกเขามีโอกาสและทำได้เฉียบคม เมื่อคุณเปิดพื้นที่นักเตะเก่งๆ ได้เล่น พวกเขาก็ยิงประตูได้ ผมคิดว่าประตูที่สามตัดสินเกมได้ทันที ใครต้องรับผิดชอบเหรอ ก็ต้องผมเอง ผมเลือกแนวทางการลงสนาม เราไม่คมพอ เราเปิดพื้นที่มากไป ข่าวบอล