วิ่งกันเหนื่อยแน่ ปัจจุบันนี้กระแสขข่าวสารผู้จัดการทีมชั่วครั้งคราวแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มแจ้งชัดขึ้นเรื่อยโดยคาดว่า ราล์ฟ รังนิค ผู้ฝึกสอนชาวเยอรมันวัย 63 ปี

วิ่งกันเหนื่อยแน่ ปัจจุบันนี้กระแสขข่าวสารผู้จัดการทีมชั่วครั้งคราวแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มแจ้งชัดขึ้นเรื่อยโดยคาดว่า ราล์ฟ รังนิค ผู้ฝึกสอนชาวเยอรมันวัย 63 ปี จะได้รับตำแหน่งคุมกองทัพ “ปีศาจแดง” ไปจวบจนกระทั่งจบฤดูกาล 2021/2022

ภายหลังที่สโมสรสั่งปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่าน ทำให้กระดานบริหารจำเป็นต้องแต่งตั้ง ไมเคิ่ล คาร์ริค เข้ามานั่งจับบังเหียนชั่วคราว ตอนที่สโมสรกำลังพยายามควานหาผู้จัดการทีมคนใหม่มาคุมกองทัพ

สำหรับในช่วงเวลานี้มีกระแสข่าวจากสื่อหลายสำนักออกมาในแนวทางเดียวกันว่ารังนิค คือผู้ที่สมควรที่จะเข้ามารับเผือกร้อนในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยข้อตกลง 6 เดือนเพื่อกอบกู้วิกฤติของสโมสร ผู้จัดการทีมเลือดด๊อยท์ช ขึ้นชื่อว่าเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในวงการลูกหนังเมืองเบียร์

โดยเขาคือเจ้าตำรับแผนการเกเก้นเพรสซิ่ง และก็ยังเป็นแรงจูงใจให้กับผู้จัดการทีมคลื่นลูกใหม่ในบ้านเกิดอย่าง พบร์เก้น คล็อปป์ (หงส์แดง), ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ (บาเยิร์น มิวนิค) รวมทั้ง โธมัส ทูเคิ่ล (เชลซี) ด้วย หาก แมนฯ ยูไนเต็ดได้ตัวรังนิค

ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่ผู้อำนวยการกีฬาสโมสรโลโกโมทีฟ มอสโก มาคุมทัพแน่นอนว่าเขาจะนำสไตล์การเล่นที่สุดพิเศษแบบนี้มาใช้กับทีม และน่าจะทำให้ “ผีแดง” กลับมาเล่นได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง รังนิคเป็นโค้ชที่นิยมการเล่นเพรสซิ่งสูง

เน้นปรัชญาที่เข้มข้นเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ และที่สำคัญเขาเป็นกุนซือที่มักจะเล่นกองหน้า 2 ตัวมาตลอด โดยสมัยที่ประสบความสำเร็จกับ แอร์เบ ไลป์ซิก เจ้าตัวใช้ระบบการเล่น 4-2-2-2 ที่สามารถปรับเป็นระบบ 4-4-2 ก็ได้

วิ่งกันเหนื่อยแน่ อย่างไรก็ตามด้วยขุมกำลังชั้นยอดของแมนฯ ยูไนเต็ด มีความเป็นไปได้สูงที่รังนิค จะเลือกใช้ระบบ 4-3-3 เนื่องจากทีมแข้งสายสปีดอยู่หลายคนโดยเฉพาะในตำแหน่งตัวรุกไม่ว่าจะเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด, เมสัน กรีนวู้ด และ เจดอน ซานโช่ ซึ่งนักเตะเหล่านี้สามารถวิ่งเพรสซิ่งสูงได้สบายๆ ข่าวบอล

วิ่งกันเหนื่อยแน่

รังนิคจะได้รับตำแหน่งคุมกองทัพ “ปีศาจแดง” ไปจวบจนกระทั่งจบฤดูกาล 2021/2022

วิ่งกันเหนื่อยแน่ ส่วน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่หลายๆ คนอาจจะเป็นกังวลว่าไม่เหมาะกับสไตล์ของรังนิค ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะอย่างน้อยๆ ด้วยศักยภาพของ “ซีอาร์ 7” ยังไงก็สามารถเป็นอาวุธหนักให้กับทีมได้อยู่แล้ว แต่คนที่จะโดนผลกระทบเต็มๆ นั่นก็คือ ปอล ป็อกบา

ขณะที่ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ น่าจะได้เป็นคู่หูแดนกลางคู่ใหม่ ส่วน บรูโน่ แฟร์นันด์ส คงได้ขยับไปเล่นแนวรุกมากยิ่งขึ้น และมีอิสระในการสร้างสรรค์เกมได้อย่างเต็มที่ สำหรับ เจดอน ซานโช่ มีคุณสมบัติเหมาะกับแท็กติกของรังนิค อยู่แล้ว

และคงได้ประจำการทางริมเส้นฝั่งขวา การที่รังนิค นิยมให้ฟูลแบ็กขึ้นมาดันเกมสูง ยิ่งทำให้ ซานโช่ สามารถใช้ความเร็วในการบุกตะลุยเข้าไปปั่นป่วนบริเวณพื้นที่ด้านในของทีมคู่แข่งมากยิ่งขึ้น สำหรับ แรชฟอร์ด จะได้ลงเล่นทางริมเส้นฝั่งซ้ายเหมือนเดิม

ในแผงแบ็กโฟร์จะเน้นการเล่นแบบวิงแบ็ก และใช้วิธีสวนกลับเร็วซึ่งกุญแจสำคัญก็คือการแย่งบอลกลับมาให้เร็วที่สุเด และเปลี่ยนเป็นเกมรุกทันทีทั้ง ลุค ชอว์, อารอน วาน-บิสซาก้า, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ ราฟาแอล วาราน เหมาะกับการทำหน้าที่นี้

ส่วน วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ คงต้องทำหน้าที่เป็นยางอะไหล่เหมือนกับ เอริก ไบยี่ คาดการณ์ 11 ตัวจริง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การกุมบังเหียนของรังนิค ระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตู : ดาบิด เด เคอา กองหลัง : อารอน วาน บิสซาก้า, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ราฟาแอล วาราน, ลุค ชอว์

กองกลาง : สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค, บรูโน่ แฟร์นันด์ส กองหน้า : มาร์คัส แรชฟอร์ด, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เจดอน ซานโช่ คล็อปป์เคยกล่าวยกย่อง รังนิคว่า เป็นหนึ่งในโค้ชระดับปรมาจารย์ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดเลยเพราะชายคนนี้เป็นคนที่คิดนอกกรอบเสมอ

และไม่เคยกลัวที่จะปรับเปลี่ยนแท็กติกเพื่อให้เข้ากับทีมมากที่สุด อย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่ารังนิค นิยมการเล่นระบบ 4-4-2 ซึ่งสามารถปรับเป็น 4-2-2-2 ก็ได้ แต่แน่นอนว่าระบบนี้อาจจะไม่เหมาะกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

กระนั้นหาก กุนซือจอมเก๋าเลือกใช้แท็กติกดังกล่าว งานนี้สาวก “เร้ด อาร์มี่” คงจะได้เห็น เอดินสัน คาวานี่ กลับมายืนเป็นคู่หัวหอกกับ โรนัลโด้ ส่วน บรูโน่ ต้องถอยลงมาเล่นลึกในแดนกลาง โดยมีคู่หู่ก็คือ แม็คโทมิเนย์ ขณะที่ปีกทั้งสองข้าง

วิ่งกันเหนื่อยแน่ ยังคงเป็น แรชฟอร์ด กับ ซานโช่ สำหรับ ป็อกบา คงต้องนั่งติดสนับก้นในซุ้มม้านั่งสำรอง และรอคอยโอกาสลงเล่นต่อไป คอนเต้ปรับทัพ