สิงโตไม่คำราม “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ เสียประตูก่อนจากลูกจุดลูกโทษ แม้กระนั้นก็ได้ จอห์น สโตนส์ ยิงจ่อๆช่วยทีมตีเสมอตั้งแต่ครึ่งแรก
สิงโตไม่คำราม “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ เสียประตูก่อนจากลูกจุดลูกโทษ แม้กระนั้นก็ได้ จอห์น สโตนส์ ยิงจ่อๆช่วยทีมตีเสมอตั้งแต่ครึ่งแรก กระนั้นเกมรุกไม่ดุเดือดพอที่จะทำแต้มกลับคว้าชัย
ท้ายที่สุดได้เพียงแค่เปิดบ้านเจ๊า ฮังการี 1-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ไอ เมื่อคืนนี้วันอังคารที่ 12 ต.ค. ก่อนหน้าที่ผ่านมา แต่ว่ายังคงรั้งผู้นำฝูงของกลุ่มอย่างเดิม สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ “สิงโตคำราม” จัดชุดยอดเยี่ยมลงบู๊ โดยมี แฮร์รี่ เคน ยืนหน้าเป้า ประกบข้างด้วย ราฮีม สเตอร์ลิง รวมทั้ง แจ็ค กรีลิช ส่วนทีมเยือนของ มาร์โก รอสซี่ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียน ใช้กองหลังตัวกลาง สามคน
และก็มี โดมินิก โซบอสซ์ไล เป็นตัวทำเกมรุกอยู่ด้านหลังหัวหอก เกมตอน 15 นาทีแรก ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีช่องทางแบบได้เสียว แต่ว่าเป็น ฮังการี ที่สวนกลับได้น่าสยอง หากแม้ครอบครองบอลน้อยกว่าเยอะ
นาทีที่22 ฮังการี ได้ลูกจุดลูกโทษ จากการที่ ลุค ชอว์ ยกเท้าสูงใส่ โลอิก เนโก จนได้รับใบเหลือง รวมทั้งเป็น โรลันด์ ซัลไล ที่ซัดเข้าไปอย่างเด็ดขาด ส่ง “แม็กยาร์” ขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 24 หลังจากตกเป็นฝ่ายตามหลัง อังกฤษก็เร่งเครื่องเดินเกมรุก
หวังทวงประตูคืน แต่ยังไม่มีโอกาสแบบเน้นๆ อย่างไรก็ตาม นาทีที่37 อังกฤษตีเสมอเป็น 1-1 สำเร็จ จากลูกฟรีคิกทางฝั่งขวาที่เปิดโดย ฟิล โฟเด้น ซึ่งบอลผ่านเลยไปถึง จอห์น สโตนส์ ยิงจ่อๆ ด้วยเท้าซ้ายเข้าไป
สิงโตไม่คำราม อังกฤษลุยต่อเนื่อง และช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เกือบได้ประตูพลิกนำจากการโขกของ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ไปติดเซฟ ปีเตอร์ กูลาชซี่ ซึ่งเจ้าตัวก็ยิงซ้ำต่อทันที แต่บอลหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย ข่าวบอล
จบครึ่งแรก อังกฤษ 1 – ฮังการี 1
สิงโตไม่คำราม ช่วง 15 นาทีแรกของครึ่งหลัง อังกฤษครองบอลเหนือกว่าชัดเจน แต่ยังไม่มีโอกาสเข้าทำ นาทีที่61 อังกฤษมีโอกาสแบบได้ลุ้น จากลูกเปิดเตะมุมของ ฟิล โฟเด้น ซึ่ง สโตนส์ ขึ้นโหม่งเช็ดบอลหลุดเสาออกไปแบบหวุดหวิด
อังกฤษมีโอกาสดีอีกครั้งในนาทีที่ 70 จากจังหวะที่ แฮร์รี่ เคน ผ่านบอลให้ สเตอร์ลิง หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่เป็น กูลาชชี่ ที่ออกมาดักเอาไว้ได้ นาทีที่74 “สิงโตคำราม” ได้ลุ้นอีกรอบ จากการที่ เคน มีโอกาสส่องด้วยขวาแบบเน้นๆ ในกรอบเขตโทษ
ทว่าบอลหลุดกรอบออกหลังไปแบบน่าผิดหวัง นาทีที่84 ฮังการี มีโอกาสบ้าง จากจังหวะที่ บูกาโย่ ซาก้า เสียการครองบอล และเป็น ฟิลิป โฮเลนเดอร์ ได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่บอลข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้น
ช่วงเวลาที่เหลือ อังกฤษพยายามเปิดเกมรุกกดดันทีมเยือน แต่ไม่เฉียบขาดและดุดันพอ แม้มีโอกาสได้ลุ้นจากการยิงตรงตัว กูลาชชี่ ของ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ก็ตาม จบเกมเสมอกันไป 1-1 อังกฤษ ยังคงรั้งจ่าฝูงของกลุ่ม ไอ มีคะแนนเพิ่มเป็น 20 แต้ม
จากการลงแข่ง 8 นัด นำ โปแลนด์ ที่ล่าสุดขึ้นมาอยู่ที่สอง 3 แต้ม ส่วน ฮังการี อยู่ที่สี่เหมือนเดิม มี 11 แต้ม จาก 8 นัด รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม อังกฤษ (4-3-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, ไทโรน มิงส์,
ลุค ชอว์ – เดแคลน ไรซ์, ฟิล โฟเด้น, เมสัน เมาท์ – ราฮีม สเตอร์ลิง (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น. 76), แจ็ค กรีลิช (บูกาโย่ ซาก้า น. 62), แฮร์รี่ เคน (แทมมี่ อับราฮัม น. 76 / โอลลี่ วัตกิ้นส์ น. 90+3)
ฮังการี (3-4-2-1) : ปีเตอร์ กูลาชซี่ – อาคอส เคชเคส, อดัม ลังก์, อัตติล่า ซาไล – โลอิก เนโก (เบนเดกุซ โบลลา น. 90), อาดัม นากี, อันดราส เชเฟอร์ (บาลินท์ เวคเซ น. 79), โซลท์ นากี – โดมินิก โซบอสซ์ไล (เนมานย่า นิโกลิช น. 90),
สิงโตไม่คำราม ซาโบช โชน (ฟิลิป โฮเลนเดอร์ น. 68) – โรลันด์ ซัลไล (ยานอส ฮาห์น น. 79) ผู้ตัดสิน : อเลฆานโดร เอร์นานเดซ (สเปน) แข้งนักบุญทำเต็มที่