สเตอร์ลิงซัดด้วย ราฮีม สเตอร์ลิง สังสรรค์คืนตัวจริงอีกรอบด้วยแนวทางการทำประตูช่วยทำให้ แมนฯ ซิตี้ เปิดรังกระหน่ำ เอฟเวอร์ตัน ไปแบบไม่มีปัญหา 3-0
สเตอร์ลิงซัดด้วย ราฮีม สเตอร์ลิงสังสรรค์คืนตัวจริงอีกรอบด้วยแนวทางการทำประตูช่วยทำให้แมนฯซิตี้ เปิดรังกระหน่ำเอฟเวอร์ตัน ไปแบบไม่มีปัญหา 3-0 พร้อมขยับแซง “ลิเวอร์พูล” กลับขึ้นไปทวงรองผู้นำฝูงคืน
โดยมีแต้มตาม เชลซี เหลือ 3 คะแนนเหมือนเดิม การประลองฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทุกวันอาทิตย์ที่ 21 เดือนพฤศจิกายน 2564 ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ระหว่างแมนฯซิตี้ ทีมอันดับ 3 พบเอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 11
แมนฯซิตี้ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เกมนี้ไม่มี เควิน เดอ บรอยน์ ที่ติดเชื้อโควิด-19 รวมไปถึง เฟร์ราน ตอร์เรส และ แจ็ค กรีลิช ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน โดยส่ง โคล พัลเมอร์ แข้งดาวรุ่งทำเกมแดนกลาง ขณะที่สามแนวรุกวาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา,
ฟิล โฟเด้น และราฮีม สเตอร์ลิงโดยมี เดมาไร เกรย์ เป็นตัวทีเด็ดริมเส้นฝั่งซ้าย ครึ่งแรกเปิดฉากมา แมนฯซิตี้ ครองเกมบุกใส่ทันที และเกือบขึ้นนำในนาทีที่ 11 เมื่อราฮีม สเตอร์ลิงกระชากมาทางขวา
แล้วเปิดไปที่เสาไกลให้ ฟิล โฟเด้น ขึ้นโหม่งบอลเหินข้ามคานไปนิดเดียว หลังจากนั้นเอฟเวอร์ตัน โชคร้ายต้องเสียโควต้าเปลี่ยนตัวคนแรกอย่างรวดเร็วเมื่อ เดมาไร เกรย์ มีอาการบาดเจ็บบริโคนขาหนีบจนเล่นต่อไม่ไหว
แล้วเป็น อเล็กซ์ อิโวบี้ ที่ถูกส่งลงมาเล่นแทน ในนาทีที่ 17 “เรือใบสีฟ้า” ยังครองเกมบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว นาทีที่ 27 ใกล้เคียงที่จะขึ้นนำอีกครั้ง ฟิล โฟเด้น ตั้งป้อมเปิดจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ราฮีม สเตอร์ลิงขึ้นโหม่งแต่กดไม่ลงข้ามคานไป
นาทีถัดมาเจ้าถิ่นได้โอกาสทองอีกครั้ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา หลุดเดี่ยวมายิงติดเซฟ จอร์แดน พิคฟอร์ด บอลกระดอนมาเข้าทางปืน อิลคาย กุนโดกัน ตามซ้ำดาบสองลอยไปตกบนคานอีก จนกระทั่งนาทีที่ 33 สเตอร์ลิงลากบอลเข้าเขตโทษ
ก่อนจะโดน ไมเคิ่ล คีน แหย่เท้าสกัดล้มในเขตโทษผู้ตัดสิน สจ๊วร์ต แอ็ตเวลล์ ชี้เป็นจุดโทษให้แมนฯซิตี้ แต่ได้รับสัญญาณ VAR ก่อนจะไปย้อนดูเหตุการณ์ด้วยตัวเองแล้วกลับคำตัดสินไม่ให้เป็นจุดโทษกับเจ้าถิ่น
อย่างไรก็ตามนาทีที่ 44 ความพยายามของแมนฯซิตี้ ก็มาสัมฤทธิ์ผลขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ชูเอา กานเซโล่ จ่ายบอลไซด์ก้อยทะลุช่องจากกลางสนามแบบเหนือชั้นให้ สเตอร์ลิงหลุดเดี่ยวมายิงตามน้ำเข้าประตูไป ข่าวบอล
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ นำ เอฟเวอร์ตัน 1-0
สเตอร์ลิงซัดด้วย ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวผู้เล่น ก่อนที่นาทีที่ 55 แมนฯซิตี้ จะนำห่าง 2-0 จากจังหวะที่แนวรับ เอฟเวอร์ตันเคลียร์บอลไม่ขาดมาเข้าทางปืนของ โรดรี้ วิ่งมากดเต็มข้อตามน้ำหน้าเขตโทษส่งบอลเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม
แมนฯซิตี้คุมเกมได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียวหวังเอาประตูปิดเกมให้ได้ นาที 74 โคล พัลเมอร์ ลองส่องนอกกรอบด้วยซ้ายแต่บอลยังเหินข้ามคาน จากนั้นนาทีที่ 78 แมนฯซิตี้ชวดได้ลูกสามแบบเหลือเชื่อ
เมื่อ ไคล์ วอล์คเกอร์ หลุดมาทางขวาแล้วจ่ายบอลถวายพานให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ยืนโล่งๆหน้าปากประตูแต่สุดท้ายกลับยิงไปติดเซฟของ จอร์แดน พิคฟอร์ด เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมแมนฯซิตี้ ถล่มเอฟเวอร์ตัน 3-0
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีมแมนฯซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, อายเมริค ลาปอร์กต์, ชูเอา กานเซโล่ – อิลคาย กุนโดกัน, โรดรี้, โคล พัลเมอร์ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิล โฟเด้น
สเตอร์ลิงซัดด้วย เอฟเวอร์ตัน (4-4-1-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – เชมัส โคลแมน, เบน กอดฟรีย์, ไมเคิ่ล คีน, ลูก้าส์ ดีญ – แอนดรอส ทาวน์เซนด์, อัลลัน, ฟาเบียน เดลฟ์, แอนโธนี่ กอร์ดอน – เดมาไร เกรย์ – ริชาร์ลิซอน ดีลพลิกประวัติศาสตร์