เปรียบเทียบฟอร์ม นับเป็นฟอร์มในตอนต้นฤดูกาล 2021-22 ที่โหดมากๆสำหรับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกชาวอียิปต์ของลิเวอร์พูล หลังจากที่เขาสามารถทำได้ถึง 9 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 9 นัด

เปรียบเทียบฟอร์ม นับเป็นฟอร์มในตอนต้นฤดูกาล 2021-22 ที่โหดมากๆสำหรับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกชาวอียิปต์ของลิเวอร์พูล หลังจากที่เขาสามารถทำได้ถึง 9 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 9 นัดในทุกรายการ

กระทั่งส่งผลให้ ลิเวอร์พูลมีผลงานที่สุดยอดตามไปด้วย ดังนี้ วันนี้พวกเราจะมาลองเปรียบเทียบว่าผลงานของเขาในตอน 9 นัดแรกที่ลงเล่นให้ลิเวอร์พูล ในแต่ละฤดูกาลสักนิดว่า มันเป็นอย่างไรกันบ้าง

จะได้เห็นกันให้กระจ่างแจ้งไปเลยว่านี่เป็นฤดูกาลที่เขาออกสตาร์ตได้ดีที่สุดในสีเสื้อของลิเวอร์พูล หรือเปล่า ฤดูกาล 2017-18 แม้ว่าจะเพิ่งย้ายมาจาก อาแอส โรม่า แต่ว่าซาลาห์ ก็สามารถปรับนิสัยเข้ากับสไตล์การเล่นของลิเวอร์พูล ได้อย่างรวดเร็ว

โดยในตอน 9 นัดแรกที่เขาลงเล่นให้ทีมในช่วงฤดูกาลดังที่กล่าวถึงมาแล้วนั้นมันเป็นการลงเล่นในฐานะตัวจริง 8 เกมกับผู้เล่นสำรอง 1 นัด ิในตอนดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว ซาลาห์ทำได้ถึง 6 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์

โดยทั้ง 6 ลูกที่ว่ามันไม่มีประตูไหน ที่มาจากการยิงลูกจุดโทษ โดยตรงเลย ทำให้ค่าเฉลี่ยการทำประตูของเขาอยู่ที่ 1 ลูกต่อทุกๆ116.5 นาที ส่วนถ้านับเรื่องการมีส่วนร่วมกับประตู หรือหมายถึงนับ รวมทั้งการยิงได้เอง และการแอสซิสต์แล้วล่ะก็

มันก็จะพบว่าเขามีส่วนร่วม กับประตูมากถึง 1 ลูกในทุกๆ99.8 นาที ฤดูกาล 2018-19 หลังจากออกสตาร์ตได้อย่างร้อนแรงเมื่อซีซั่นก่อน มันเลยเป็นเรื่องธรรมดา ที่หลายคนจะคาดหวังว่าซาลาห์ จะทำผลงานได้สุดยอด ในทันทีอีกครั้ง กับการเล่นให้ลิเวอร์พูล ข่าวบอล

เปรียบเทียบฟอร์ม

9นัดแรกที่ลงเล่นให้ลิเวอร์พูล

เปรียบเทียบฟอร์ม เป็นฤดูกาลที่ 2 ซึ่งมันก็เป็นอีกครั้งที่ใน 9 นัดแรกของฤดูกาลเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริง 8 นัดกับตัวสำรอง 1 หน อย่างไรก็ตาม ผลงานของเขาในตอนออกสตาร์ตซีซั่นนี้ถือว่าดร็อปจากตอนฤดูกาล 2017-18 เยอะพอตัว เพราะทำได้เพียง 3 ประตูกับ 1 แอสซิสต์

ส่งผลให้ค่าเฉลี่ยการทำประตูของเขาอยู่ที่ 1 ลูกในทุกๆ 224 นาที หรือถ้าจะนับรวมแอสซิสต์เข้าไปด้วยแล้วล่ะก็ เขาก็มีส่วนร่วมกับประตูอยู่ที่ 1 ลูกในทุกๆ 168 นาที ฤดูกาล 2019-20 ในช่วง 9 นัดแรกที่เขาลงเล่นในซีซั่นดังกล่าวนั้น

ซาลาห์ได้ลงสนามในฐานะตัวจริงทั้งหมด 9 เกม ซึ่งผลงานของเขาก็กลับมาดีพอๆ กับในตอนซีซั่นแรกที่เล่นให้กับลิเวอร์พูล จากการยิงได้ 4 ลูก และทำไปอีก 3 แอสซิสต์ จากผลงานดังกล่าวทำให้ถ้านับเป็นค่าเฉลี่ยแล้วนั้น

เขาก็จะทำประตูได้ 1 ลูกในทุกๆ 207.2 นาที ขณะที่ถ้านับการแอสซิสต์เข้าไปด้วยมันก็จะกลายเป็นว่าเขามีส่วนร่วมกับประตูได้ในทุกๆ 118.4 นาทีด้วยกัน โดยจาก 4 ประตูที่เขาทำได้นั้นมันมี 1 ลูกที่มาจากลูกจุดโทษ ฤดูกาล 2020-21

เป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกันที่การลงเล่นให้ลิเวอร์พูล ในช่วง 9 นัดแรกของซีซั่นนั้น ถือเป็นการลงสนามในฐานะตัวจริงทั้งหมดของซาลาห์ ซึ่งถึงแม้เขาจะทำแอสซิสต์ไม่ได้เลย แต่เจ้าตัวก็ผลิตสกอร์ได้ 6 ครั้ง โดยในจำนวนนั้นมาจากลูกจุดโทษ 2 ลูก

ด้วยเหตุนี้ มันจึงกลายเป็นว่าในช่วง 9 นัดแรกของฤดูกาล ซาลาห์ใช้เวลาเฉลี่ยไป 125.1 นาทีต่อการทำประตูให้ทีม 1 ลูก และแน่นอนว่าตัวเลขค่าเฉลี่ยด้านการมีส่วนร่วมกับประตูของเขาหากนับรวมการแอสซิสต์มันก็เป็นตัวเลข 125.1 นาทีต่อ 1 ครั้ง

เหมือนกัน จากการที่เขาทำแอสซิสต์ไม่ได้เลยตามที่บอกไปในเบื้องต้น ฤดูกาล 2021-22 ในฤดูกาลนี้ ซาลาห์ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงทั้ง 9 นัด ซึ่งอย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าเขาทำได้ 9 ประตูกับ 3 แอสซิสต์

นั่นทำให้ค่าเฉลี่ยการทำประตูของเขาอยู่ที่ 1 ลูกในทุกๆ 86.7 นาที ส่วนหากนับรวมการแอสซิสต์เข้าไปด้วยมันก็จะกลายเป็นว่าเขาใช้เวลาเฉลี่ยแค่ 65 นาทต่อการมีส่วนร่วมกับประตู 1 ลูก เนวิลล์เชื่อแบบนี้