ใครคือรังนิค แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นข่าวสารจ่อแต่งตั้ง ราล์ฟ รังนิค ให้รับตำแหน่งผู้จัดทีมชั่วคราวของสโมสรในอีกไม่กี่อึดใจ

ใครคือรังนิค แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นข่าวสารจ่อแต่งตั้ง ราล์ฟ รังนิค ให้รับตำแหน่งผู้จัดทีมชั่วคราวของสโมสรในอีกไม่กี่อึดใจด้านหน้า รายงานข่าวสารแจ้งว่ากุนซือวัย 63 ปีตกลงที่จะเซ็นสัญญาหกเดือนกับถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ภายหลังจากสโมสรยักษ์แห่ง พรีเมียร์ลีก อัปเปหิ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เนื่องจากเป็นผู้มีความรู้ แล้วก็มีเสียงยกย่องในวงการลูกหนังของลีกเมืองเบียร์มาเป็นเวลายาวนาน แมนฯยูไนเต็ดก็เลยพร้อมฝากอนาคตเอาไว้กับนายใหญ่ชาวด๊อยทช์รายนี้

แล้วก็แน่นอนว่าบรรดาผู้ฝึกสอนร่วมชาติอีกทั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ , โธมัส ทูเคิ่ล รวมทั้ง ยูเลี่ยน นาเกิ้ลส์มันน์ ต่างก็ยกย่อง และก็ทำความเข้าใจแท็คติกของกุนซืออาวุโสรายนี้ร่วมกันทั้งหมด ด้วยฉายา “เดอะ โปรเฟสเซอร์” มันฟ้องให้มีความเห็นว่ารังนิค

เป็นหนึ่งในคนคิดค้นระบบการเล่น เกเก้นเพรสซิ่ง อันเป็นสไตล์ที่ทีมนั้นๆ จำเป็นจะต้องไล่บี้แย่งบอลคืนกลับมาจากฝ่ายตรงข้ามโดยทันทีข้างหลังเสียการครอบครองบอล ดังจะมองเห็นได้ว่าฟุตบอลยุคใหม่ต่างก็ใช้กลยุทธ์นี้ร่วมกันทั้งหมด

หรือเปล่าขั้นต่ำๆหลายทีมก็นำไปดัดแปลงกันเป็นทิวแถว ว่าแต่ว่ารังนิค คือใครกัน? พวกเรามาทำความรู้จักกับเขาให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆกันได้เลย ช่วงเริ่มต้น น่าทึ่งไม่น้อยเลยที่รังนิค เริ่มจับงานโค้ชตั้งแต่อายุ 25 ปีในปี 1983 หลังผ่านการเล่นฟุตบอลในระบบเซมิโปร

อย่างไรก็ดี ปรัชญาของเขาขัดแย้งกับเทรนด์ในยุคนั้นซึ่งทีมชาติเยอรมันลงบู๊ในระบบ 3-5-2 และมีการเล่นแบบแมน มาร์คกิ้ง แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทีมชาติเยอรมันตะวันตกด้วย เนื่องจากพวกเขาประสบความสำเร็จจากสไตล์ดังกล่าวด้วยการคว้าแชมป์โลกปี 1990

หลังได้ตำแหน่งรองแชมป์เมื่อสี่ปีก่อน อย่างไรก็ดี รังนิคมีไอเดียเป็นของตัวเองถึงการเล่นฟุตบอลที่สวยงาม ในปี 1997 เขาประสบความสำเร็จหนแรกในการจับงานคุมทีมเล็กๆที่ชื่อ อูล์ม 1846 โดยพาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่นสี่ได้

หลังจากนั้นอีกปีเดียว เขาก็ถูกเชิญให้ไปปรากฏตัวในรายการทีวีของประเทศเพื่ออธิบายถึงทฤษฏีฟุตบอลของเขา เท่านั้นแหละ สื่อเมืองไส้กรอกก็มอบฉายา “โปรเฟสเซอร์” ให้กับเขาซึ่งเชื่อว่าเป็นไปแบบเยอะเย้ย และดูแคลนซะมากกว่า

เนื่องจากกลวิธีของเขาแตกต่างไปจากระบบการมีสวีปเปอร์ที่ ฟร้านซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ ตำนานของชาติชื่นชอบ “ปฏิกริยาของสื่อรวมถึงคนในวงการฟุตบอลน่าตลกมาก” รังนิคเอ่ยกับ อีเอสพีเอ็น “เหตุผลหลักเป็นเพราะว่าเมื่อ 30 ปีก่อน

ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ วางรากฐานให้ประเทศของเราด้วยการเล่นแบบมีสวีปเปอร์ หรือลิเบอโร่เพื่อตัวของเขาเอง” “ฟร้านซ์ เองยังพูดออกมาเลยว่าในช่วงกลางยุค 90 คุณไม่อาจเล่นแบบคุมโซนได้สำหรับแผงแบ็คโฟร์ เพราะนักเตะเยอรมันไม่เข้าใจว่ามันเล่นกันยังไง”

ใครคือรังนิค “ผมถามตัวเองว่านักเตะเยอรมันฉลาดน้อยกว่านักเตะเบลเยี่ยม หรือสเปน หรือฮอลแลนด์หรือไง? สำหรับผม มันไม่สมเหตุสมผลเลย” ข่าวบอล

ใครคือรังนิค

แมนฯยูไนเต็ดก็เลยพร้อมฝากอนาคตเอาไว้กับนายใหญ่ชาวด๊อยทช์รายนี้

ใครคือรังนิค เกเก้นเพรสซิ่ง ย้อนเวลากลับไปในอดีตก่อนหน้านั้น เกเก้นเพรสซิ่ง ของรังนิค ทำเอา วาเลรี่ โลบานอฟสกี้ ผู้จัดการทีมชาติยูเครนถึงกับสะอึกมาแล้วสมัยที่เขาคุมทีม ดินาโม เคี๊ยฟ และถูก วิคตอเรีย บัคนัง ทีมระดับดิวิชั่นหกของรังนิค ไล่บี้จนนักเตะของเขาแทบไม่ได้หายใจหายคอในเกมกระชับมิตรเมื่อปี 1983

และมันเป็นแท็คติกที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เจริญรอยตามภายใต้แบรนด์ของตัวเอง “เฮฟวี่ เมทัล ฟุตบอล” “หนึ่งในโค้ชที่เยี่ยมที่สุด หากไม่ได้เยี่ยมที่สุดในเยอรมัน” คล็อปป์ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล เอ่ยถึงรังนิค เอาไว้แบบนี้

ต่อปรัชญาของระบบ เกเก้นพรสซิ่ง รังนิคระบุว่า “มันเรียบง่ายมาก” “มันเป็นสไตล์ฟุตบอลเชิงรุกซึ่งคล้ายกับที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ ลิเวอร์พูล เล่นในยุคของ คล็อปป์” รังนิคเสริม “เราชอบการเพรสสูง เมื่อเราได้ครองบอล

เราจะไม่ผ่านบอลแบบขวางสนาม หรือว่าส่งคืนหลัง” “นายทวารไม่ใช่คนที่ต้องสัมผัสบอลมาก ในลีกส่วนใหญ่ของทุกประเทศ นายทวารมีเทคนิคที่จำกัดที่สุดในสนาม ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องทำให้มั่นใจว่าเขาจะได้สัมผัสบอลด้วยเท้าน้อยที่สดุ”

“มันเป็นการเล่นเกมรุกที่รวดเร็วฉับไว รวมถึงการโต้กลับด้วย มันเป็นสไตล์ฟุตบอลที่น่าตื่นเต้น และน่าสนุก” ความสำเร็จ นับจากปี 2001-2004 รังนิคกุมบังเหียน ฮันโนเวอร์ และเขาสามารถพาทีมเลื่อนขึ้นสู่ บุนเดสลีกา ได้

จากนั้นเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เขาพลาดได้ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติเยอรมันในยุคของ โยอัคคิม เลิฟ และมาได้งานคุมทีม ชาลเก้ แทน ถึงกระนั้นมันก็เป็นช่วงเวลาทองของ ราชันสีน้ำเงิน เนื่องจากพวกเขาได้ตำแหน่งรองแชมป์ บุนเดสลีกา โดยเป็นรอง บาเยิร์น มิวนิค

แต่ก็มาพ่าย เสือใต้ ด้วยเช่นกันในนัดชิงชนะเลิศ เดเอฟเบ โพคาล ปี2005 หลังจาก ชาลเก้ มีผลงานย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง รังนิคก็ถูกปลด แต่เขาได้กุมบังเหียน ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในปี 2006 และบางทีกับสโมสรเล็กๆแห่งนี้ที่รังนิค น่าจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงในฐานะโค้ช

เนื่องจากเขาพาทีมระดับดิวิชั่นสามเลื่อนชั้นได้ทุกปี กระทั่งผงาดขึ้นสู่ บุนเดสลีกา อย่างไรก็ดี เขาอำลา ฮอฟเเฟ่นไฮม์ ซึ่งมีสถานภาพที่น่าอุ่นใจในลีกสูงสุดของประเทศกลับไปกุมบังเหียน ชาลเก้ เป็นคำรบสองเนื่องจากยังปฏิบัติภารกิจได้ไม่ลุล่วง

และในที่สุด เขาก็พาทีมซิวแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ได้ และผ่านเข้าถึงรอบตัดเชือกถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนที่กุนซือจอมเก๋าจะเริ่มอ่อนระโหย และสละเก้าอี้ในปี 2011 โปรเจ็คใหม่ รังนิคปลีกตัวออกจากการคุมทีมข้างสนาม แต่หันไปรับบทบาทใหม่กับทีมในเครือ เร้ดบูลล์

ทั้ง ไลป์ซิก ,ซัลซบวร์ก และ นิวยอร์ค ในฐานะผู้อำนวยการกีฬาของบริษัท ภายใต้การดูแลของเขาซึ่งมีเงินสนับสนุนจากมหาเศรษฐีพันล้าน ดีทริช เมเทสชิตซ์ ไลป์ซิก สร้างความฮือฮาปีนจากดิวิชั่นสี่ขึ้นสู่ บุนเดสลีกา ได้ในเวลาแค่หกปี

แฟนบอลไม่ชอบสิ่งนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันขัดแย้งกับกฏ 50+1 อันเป็นโมเดลของลีก แต่แน่นอนว่าแฟนบอล ไลป์ซิก ไม่สนใจ แม้จะไม่เป็นที่นิยมชมชอบ ไลป์ซิก ก็กลายมาเป็นท๊อปโฟร์ของลีกเมืองเบียร์เช่นเดียวกับการเป็นแขกขาประจำของถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก

จนในที่สุด รังนิคก็กลับมานั่งเก้าอี้กุนซือด้วยตัวเองคุมทีม ไลป์ซิก ระหว่างปี 2015-16 และ 2018-19 แต่ชั่วโมงนี้เขาชอบบทบาทที่ปรึกษามากกว่าแล้ว หลังทำงานได้ลุล่วง เขาก็ย้ายทีมอีกครั้งโดยมีข่าวแพร่ออกมาว่า เอซี มิลาน จะเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของเขา

ทว่าน่าเซอร์ไพรส์อย่างแรงที่รังนิค เลือกรับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนากีฬาของ โลโคโมทีฟ มอสโกว์ ทีมลูกหนังของรัสเซียเมื่อซัมเมอร์ก่อนภายใต้สัญญาสามปี กระทั่งมาได้รับการทาบทามจาก แมนฯ ยูไนเต็ด มันจึงเป็นความเย้ายวนที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้

ใครคือรังนิค เอาเป็นว่าเราคงต้องมาลุ้นกันดูล่ะว่าปรมาจารย์จากเมืองเบียร์จะช่วยปลุกยักษ์หลับรายนี้ให้ตื่นขึ้นมาอาละวาดได้ดังเดิมอีกหนหรือเปล่า? เขาคือใคร