จบลงแบบไร้ชัย เกมยูฟ่าเนชั่นสลีก นัดที่สามในกลุ่มเอ3 อังกฤษทำได้แค่เสมอกับ อิตาลี0-0 จากการฟาดแข้งที่สนาม โมลินิวซ์ กราวน์ ของสโมสรวูล์ฟส์

จบลงแบบไร้ชัย สำหรับเกมยูฟ่า เนชั่นสลีก นัดที่สามในกลุ่ม เอ3 ซึ่ง อังกฤษ ทำได้แค่เสมอกับ อิตาลี0-0 จากการฟาดแข้งที่สนาม โมลินิวซ์ กราวน์ ของสโมสร วูล์ฟส์ ต่อผลงานดังกล่าว หมายความว่าทีม สิงโตคำราม ไม่อาจชำระแค้น อัซซูรี่ ได้หลังเป็นฝ่ายปราชัยในการเผิชญหน้ากันหนล่าสุดนัดชิงชนะเลิศ ยูโร2020

และหนีไม่พ้นต้องรั้งตำแหน่งบ๊วยของกลุ่มเนื่องจากยังสะกดคำว่าชนะไม่ได้ ทรี ไลอ้อนส์ ปรับทัพขนานใหญ่ หลังบุกไปเสมอกับ เยอรมัน 1-1 ในเกมยูฟ่า เนชั่นส์ลีก นัดล่าสุดที่มิวนิค ก็มีการคาดหมายกันว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมเมืองผู้ดีจะปรับทัพขนานใหญ่

เนื่องจากเขายังพาทีมคว้าชัยชนะไม่ได้เลย ในการลงเล่นสองนัดแรกของรายการนี้ และในที่สุด สิงโตคำราม ก็ปรับกระบวนทัพมากถึงหกจุดนัดเปิดบ้านฟัดกับ อิตาลี คู่ปรับเก่าจากเกมชิงชนะเลิศ ยูโร2020 ในจำนวนนี้ หลายตำแหน่งเป็นไปอย่างที่ได้รับการคาดหมายว่า เซาธ์เกต จะจัดทัพ

ตามเสียงเรียกร้องของแฟนบอลด้วยการส่ง แจ็ค กรีลิช ดาวเตะค่าตัว 100 ล้านปอนด์ออกสตาร์ตหลังสตาร์ทีม แมนฯซิตี้ ลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมบู๊กับ อินทรีเหล็ก และสร้างปัญหาให้กับทีมด๊อยทช์ได้ในหลายๆจังหวะ พร้อมกันนี้ แทมมี่ อบราฮัม กองหน้าทีม โรม่า ก็ได้รับโอกาสเช่นกัน

ฐานที่สร้างชื่อยิงประตูเป็นว่าเล่นใน เซเรียอา ให้ทีม หมาป่า คว้าแชมป์ ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ซีซั่นที่ผ่านมา ขณะที่ แฮร์รี่ เคน ถูกจับนั่งเป็นตัวสำรองให้ได้พักแข้งพักขาบ้าง ขณะเดียวกัน อาร่อน แรมสเดล ก็ได้เฝ้าเสาเป็นตัวจริงซึ่งเป็นการติดธงเกมที่สองของเขา

เช่นเดียวกับ ฟิคาโย่ โทโมรี่ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงหนแรก รวมถึง เจมส์ วอร์ด พราว์ส ที่ได้โลดแล่นในแดนกลาง ข่าวบอล

จบลงแบบไร้ชัย

สิงโตคำรามไม่อาจชำระแค้น อัซซูรี่ได้หลังเป็นฝ่ายปราชัยในการเผิชญหน้ากัน

จบลงแบบไร้ชัย กัปตัน สเตอร์ลิ่ง จากการถูกดร็อปของ เคน ทั้งๆที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ยังได้รับใช้ชาติเป็นตัวจริงต่ออีกนัดสร้างความประหลาดใจให้กับแฟนบอลและสื่อไม่น้อยที่ปราการหลังคนโปรดของ เซาธ์เกต ไม่ได้สวมปลอกแขนแม็ตช์ปะทะกับ อิตาลี หากแต่มันตกอยู่กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกทีมแมนฯซิตี้

ซึ่งถูกลืออย่างหนักว่าน่าจะอำลา เอติฮัด สเตเดี้ยม ในซัมเมอร์นี้ อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดาวเตะผิวสีได้รับบทกัปตันทีม ทรี ไลอ้อนส์ เนื่องจากหากรวมเกมนี้ก็เป็นครั้งที่สี่แล้วที่ สเตอร์ลิ่ง ได้สวมปลอกแขน แต่ก็ให้น่าเสียดายที่เขาไม่อาจพาทีมคว้าชัยชนะได้ โดยเฉพาะเจ้าตัวพลาดโอกาสสอยประตูด้วยเช่นกัน

มะกะโรนีเปลี่ยนยกทีมเหลือแค่สองชีวิต แม้อังกฤษ จะโรเตชั่นทีมมากถึงหกตำแหน่ง แต่เมื่อเทียบกับทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ แล้ว พวกเขาเหลือนักเตะจากเกมล่าสุดที่พิชิต ฮังการี2-1 แค่สองรายเท่านั้น เท่ากับว่าทีม มะกะโรนี เปลี่ยนโผ 11 ตัวจริงบุกมาเยือน อังกฤษ มากถึง 9ตำแหน่ง

โดยมีแค่นายทวาร จานลุยจิ ดอนนารุมม่า กับ ลอเรนโซ่ เปเลกรินี่ เท่านั้นที่ได้ออกสตาร์ตต่ออีกนัดโดยในรายของดาวเตะทีม โรม่า กดเม็ดสองให้ อิตาลี สยบ แม็กยาร์ ได้สำเร็จในเกมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน มันชินี่ ส่ง เฟเดริโก้ กัตติ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 23 ปีที่ ยูเวนตุส ปล่อนให้ โฟรซิโนเน่ ทีมใน เซเรียบี ยืมไปใช้งานเมื่อซีซั่นก่อนประเดิมสนามในนามทีมชาติเป็นนัดแรกด้วย บรรลุข้อตกลง

จบลงแบบไร้ชัย

จบลงแบบไร้ชัย เกมที่ไร้ความหมาย? ไม่น่าแปลกอะไรที่นักเตะหลายรายของหลายๆชาติพากันบ่นอุบถึงทัวร์นาเมนต์ ยูฟ่าเนชั่นส์ลีก ซึ่งถูกมองว่าไม่มีความหมายหรือว่าคุณค่าให้ลงเล่นแม้แต่น้อยหลังจากพวกเขาเพิ่งผ่านพ้นซีซั่นที่ยาวนานมาหมาดๆ โดยเฉพาะ เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยี่ยม ของแมนฯซิตี้

ส่งเสียงถึงรายการนี้ในแง่ลบชนิดไม่เกรงใจยูฟ่า เลยสักนิด และสำหรับทั้ง อังกฤษ และอิตาลี บอกได้เลยว่าหลังจากทั้งสองทีมเปิดโผ 11 คนแรกลงเล่นเป็นนัดที่สามในรายการนี้ด้วยการดร็อปขุนพลตัวหลักออกไปหลายราย มันจึงไม่ต่างอะไรกับเกมอุ่นเกือกธรรมดานัดหนึ่งเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ทุกคนรู้ดีว่าทั้งสองชาติโคจรมาพบกันอีกหนหลังเคยฟาดแข้งกันในเกมชิงชนะเลิศ ยูโร 2020 เมื่อเดือนก.ค.ปีก่อน แต่กลายเป็นว่าทีมของเซาธ์เกต และมันชินี่ เหลือนักเตะตัวจริงจากนัดที่แล้วรวมกันแค่ 7 รายเท่านั้นจากทั้งหมด 22 ราย ในจำนวนนี้ประกอบไปด้วย

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ , คีแรน ทริปเปียร์ , ดีแคลน ไรซ์ , เมสัน เมาท์ และราฮีม สเตอร์ลิ่ง ของฝั่ง อังกฤษ ขณะที่ อิตาลี เหลือแค่ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า กับ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ แค่สองราย

 

สถิติที่น่าสนใจ อังกฤษยิงประตูในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ไม่ได้ 7 นัดแล้วจาก 15 นัด (47%) แถม 7 จาก 8 นัดหลังที่พวกเขาเท้าบอดก็ล้วนเป็นเกมในทัวร์นาเมนต์นี้ทั้งสิ้น ฟิกาโย่ โทโมรี่ (มิลาน) กับ แทมมี่ อบราฮัม (โรม่า) เป็นนักเตะอังกฤษรายที่ห้าและหกที่ได้ดวลกับทีมชาติอิตาลี

ขณะที่ค้าแข้งใน เซเรียอา ต่อจาก เรย์ วิลกิ้นส์ , มาร์ค เฮทลีย์ , เทรเวอร์ ฟรานซิส และพอล อินซ์ เมสัน เมาท์ มีโอกาสสับไกในเกมนี้ 3 หน และตรงกรอบทั้งหมดจากโอกาสโดยรวมของ สิงโตคำราม 12 หนที่ตรงกรอบ 4 หนคิดได้เป็น 75% ที่ทีมเจ้าบ้านทำได้ แม้จะไม่มีประตูก็ตาม

-รวมการเผชิญหน้ากันมาทั้งหมด 29 นัดในทุกรายการ อิตาลี มีผลงานที่เหนือกว่า และหากนับจากการดวลกันในทุกรายการ 15 นัดหลังสุด อัซซูรี่ เสียท่าให้ สิงโตคำราม แค่ 2 นัดเท่านั้น (ชนะ 7 เสมอ 6) กระทั่งเกมล่าสุดที่เสมอกันแบบไร้สกอร์ ทีมเมือง มะกะโรนี ก็ยังไม่ปราชัยให้กับ ทรี ไลอ้อนส์ อีกตามเคย