จุดเปลี่ยนอีกแล้ว เอริก เทน ฮาก ผู้ที่กำลังถูกกล่าวถึง และจะกำลังได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกครั้ง

จุดเปลี่ยนอีกแล้ว ตอนนี้ดูเหมือนว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะเสี่ยงพวงมาลัยเลือกผู้จัดการทีมคนใหม่ได้แล้ว นั่นก็คือ เอริก เทน ฮาก เทรนเนอร์ชาวดัตช์ ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างมากจากการพัฒนา อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในช่วงที่ผ่านมา

นายใหญ่อาแจ็กซ์ ตกเป็นข่าวว่าได้เดินทางมาสัมภาษณ์งานกับทัพ “ปีศาจแดง” แล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งในเวลานั้น เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ (ปารีส แซงต์-แชร์กแมง), จูเลน โลเปเตกี (เซบีย่า) และ หลุยส์ เอ็นรีเก้ (ทีมชาติสเปน) ก็เข้ารับการสัมภาษณ์เช่นกัน

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า กุนซือแดนกังหันลม วัย 52 ปีจะมีนโยบายและแผนการสร้างทีมที่ถูกจริตกับ แมนฯยูไนเต็ด ที่สุด และนั่นทำให้เขากลายเป็นเต็งหนึ่งที่จะได้รับการแต่งตั้งให้นั่งเก้าอี้นายใหญ่แห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อนำสโมสรไล่ล่าความสำเร็จในฤดูกาลหน้า

ก่อนที่จะถึงวันนั้น ลองย้อนไปดูชีวิตของเทนฮาก ซึ่งนำ อาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ลีก2สมัย และดัตช์คัพ 2 สมัย รวมทั้งเคยนำทีมเข้ารอบตัดเชือก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กันหน่อยว่าน่าสนใจมากแค่ไหน เพราะเขาเป็นโค้ชอีกคนที่ผ่านการเล่นฟุตบอลอาชีพในประเทศเนเธอร์แลนด์

ก่อนที่จะทำงานโค้ชในบ้านเกิด และเยอรมนี รักการเต้นพอๆ กับฟุตบอล ตอนที่เทนฮาก ยังเป็นเด็กน้อย เขามีความหลงใหลได้ปลื้มการเต้นมากพอๆ กับการเล่นฟุบอล โดยเจ้าตัวเคยเข้าร่วมกับ “Dwars” ทีมเต้นประจำโรงเรียนที่ฮากส์แบร์เกน เมืองเกิดของเขา

แต่สุดท้ายเมื่อเขาสู่วัยรุ่น เทนฮากตัดสินใจเลือกความสวยงามของเกมลูกหนังแทนที่การเต้นบอลฟลอร์ แต่การเลือกแบบนั้นก็มาพร้อมกับความท้าทายในตัวเช่นกัน เล่นฟุตบอลจนอ้วกแตก การที่เทนฮาก มีความทะเยอทะยานในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

เขาจะต้องทุ่มเทและต้องวิ่งอย่างหนักเวลาที่ลงสนามเพื่อสร้างความประทับใจให้กับโค้ช เรื่องนี้ทำให้แม่ของเขาย้อนความหลังสมัยที่ลูกชายสุดที่รักอายุ 7 ขวบเคยกลับบ้านมาแล้วก็อ้วกแตกอ้วกแตนเพราะความเหนื่อยล้า เหตุผลก็เพราะว่าทีมอื่นๆ

ขาดแคลนผู้เล่นทำให้เขาต้องอาสาลงสนาม 3 แมตช์ติดต่อกัน งานนี้มารดาสุดเลิฟถึงขนาดเรียกเขาว่า “คลั่งไคล้” และ “ลุ่มหลง” เรื่องลูกหนัง เทิร์นโปร ในปี 1989 เทนฮากได้มีโอกาสลงสนามเปิดตัวกับสโมสรเอฟซี ทเวนเต้ ซึ่งเขาค้าแข้งกับทีมนี้ถึง 3 ช่วงเวลา

จุดเปลี่ยนอีกแล้ว โดยเจ้าตัวเล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กจากนั้นก็มีโอกาสได้ค้าแข้งกับ เดอ กราฟสคัป, อาร์เคซี วาลไวก์ และ เอฟซี อูเทร็คท์ อย่างไรก็ตามเขายังไม่ดีพอที่จะเล่นให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ กระนั้น เทนฮากก็ถือว่าประสบความสำเร็จในสมัยเป็นนักเตะด้วยการคว้าแชมป์ ดัตช คัพ กับ เอฟซี ทเวนเต้ ในซีซั่น 2000/2001 ข่าวบอล

จุดเปลี่ยนอีกแล้ว

กำลังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทีม ปีศาจแดง อีกครั้ง

จุดเปลี่ยนอีกแล้ว หันมาทำงานโค้ช ในปี 2012 ซึ่งก็ประมาณ 10 ปีหลังจากที่ตัดสินใจแขวนสตั๊ด เทนฮากเริ่มนับหนึ่งกับบทบาทการเป็นโค้ช ด้วยการทำงานให้กับสโมสรโก อเฮด อีเกิลส์ ซึ่งได้ร่วมงานกับ มาร์ก โอเวอร์มาร์ส โดยในเวลานั้นพวกเขายังอยู่ระดับดิวิชั่นสองลีกดัตช์

แต่เขาอยู่กับที่นี่แค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้นก่อนจะไปหาประสบการณ์ต่างแดนที่ เยอรมนี ประสบความสำเร็จครั้งแรก เทนฮากพิสูจน์ให้โลกได้เห็นแล้วว่าเขามีอนาคตไกลในงานเทรนเนอร์ นั่นก็คือการนำสโมสรโก อเฮด อีเกิลส์ เลื่อนชั้นไปเล่นในศึกเอเรดิวิซี่ ลีก

สูงสุดดินแดนดัตช์ ครั้งแรกในรอบ 17 ปี ก่อนถอยไปคุมทีมสำรองบาเยิร์น มิวนิค ระหว่างปี 2013-2015 ซึ่งได้ฝึกปรือฝีมือกังทัพ “เสือใต้” เพราะตอนนั้น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือโค้ชใหญ่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ได้เรียนรู้และพยายามเล่นบอลสไตล์ เป๊ป

บาเยิร์น มิวนิค อย่างที่เกริ่นเอาไว้ในข้อ 5 เทนฮากมีโอกาสได้พัฒนาเรื่องแท็กติกเชิงลูกหนังเมื่อได้ไปทำงานให้กับทีมสำรองของ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งในเวลานั้นเขาได้ทำงานร่วมกับ เป๊ป ฉะนั้นเจ้าตัวจึงได้รับอิทธิพลการวางหมากเหมือนกับนายใหญ่ชาวสแปนิช

“ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะมากจาก กวาร์ดิโอล่า ปรัญชาของเขามันน่าตื่นเต้นมากๆ สิ่งที่เขาทำเอาไว้กับบาร์เซโลน่า, บาเยิร์น และตอนนี้ก็แมนเชสเตอร์ซิตี้” “การเล่นเกมรุก และสไตล์ที่มีเน่ห์มันทำให้เขานำทีมคว้าแชมป์มากมาย ที่เป็นโครงสร้างที่ผมพยายามนำมาใช้กับอาแจ็กซ์” เทนฮากกล่าว

งานนี้หากเขาได้ทำงานกับแมนฯยูฯ จริงๆ สาวก “เร้ด อาร์มี่” อาจจะมโนว่านี่คือเงาของ “เป๊ป” ก็ได้ หวนคืนบ้านเกิด ในปี 2015 หนึ่งปีก่อนที่ กวาร์ดิโอล่า จะทำงานร่วมกับแมนฯซิตี้ โดยเทนฮาก ได้เริ่มต้นในการคุมทีมชั้นนำในลีกสูงสุดแดนกังหันลม

เมื่อเขารับงานกับ เอฟซี อูเทร็คท์ โดยที่นี่เจ้าตัวได้นำรูปแบบการฝึกซ้อมที่ได้เรียนรู้จากประเทศเยอรมนีมาใช้จนกระทั่งประสบความสำเร็จภายใน 2 ฤดูกาลสำหรับปีแรก เทนฮากนำทีมคว้าอันดับ 5 แต่ในปีที่ 2 เขาสามารถนำสโมสรคว้าตั๋วไปเล่นในศึกยูฟ่า ยูโรปาลีก ได้สำเร็จ

และนั่นเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ อาแจ็กซ์ ต้องส่งเทียบเชิญให้มากุมบังเหียนทีม รับงานใหญ่ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ซึ่งเป็นผู้อำนวยการกีฬาอาแจ็กซ์ (ปัจจุบันลาออกไปแล้วหลังก่อเรื่องฉาวด้วยการส่งข้อความเชิงชู้สาวไปจีบเพื่อนร่วมงานสุภาพสตรีรายหนึ่ง)

มีบทบาทสำคัญในการแต่งตั้ง เทนฮากกุมบังเหียนอาแจ็กซื ในปี 2017 และการเลือกครั้งนั้นก็ไม่ผิดหวังเมื่อเขานำทีมคว้าแชมป์ลีก 2สมัย และฟุตบอลถ้วยในประเทศอีก 2สมัย ที่สำคัญปรัชญาการเล่นเกมรุกที่ดุดันของทีมก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม

ยังไม่หมดแค่นั้น อาแจ็กซ์ สร้างผลงานสุดยอดในแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ ในปี 2019 แต่น่าเสียดายที่แพ้ สเปอร์ส ครัฟฟ์สไตล์ สิ่งที่โดดเด่นอย่างมากของเทนฮาก ก็คือการนำทีมเล่นในระบบยอดนิยมที่ โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานผู้ล่วงลับได้นำมาใช้กับ บาร์เซโลน่า

จนโด่งดังเป็นพลุแตก นั่นก็คือแท็กติก 4-3-3 นอกจากนี้กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของเขาก็คือการเน้นครองเกมให้มากที่สุด โดยเทนฮาก ได้รับการยกย่องอย่างมากในการดึงศักยภาพของลูกทีมออกมาได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันเขายังมักจะมีการเตรียมทีมและเก็บรายละเอียดให้พร้อมรับมือกับคู่แข่งทุกๆ ทีม

รักครอบครัว หากไม่นับเรื่องในสนาม ต้องบอกเลยว่าเทนฮาก คือหนึ่งในสุภาพบุรุษอย่างแท้จริง โดยเขาแต่งงานกับ เบียนก้า และโซ่ทองคล้องใจกันด้วยกันสามคน ปัจจุบันลูกๆ ก็ยังคงอยู่ด้วยกัน โดยใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่ห่างไกลจากความศิวิไลต์ในเมืองหลวง นอกจากนี้

จุดเปลี่ยนอีกแล้ว เทนฮากและครอบครัว ไม่นิยมการชอปปิ้งแบบหรูหราฟุ่มเฟือย แต่พวกเขาชอบใช้ชีวิตแบบเอาท์ดอร์มากกว่า ซึ่งทั้งหมดมักจะออกไปปั่นจักรยาน, เล่นกอล์ฟ และเดินเข้าป่าซึ่งเป็นสถานที่ที่ทำให้เทนฮาก รู้สึกสงบ และมีสันติสุข ผลงานยอดแย่