ทำการชิงชัย อาทิตย์นี้จะเป็นแมตช์วันที่ 10 ของศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งในคืนวันเสาร์ บรรดาทีมใหญ่ต่างลงสู่สนามกันครบถ้วน 

ทำการชิงชัย อาทิตย์นี้จะเป็นแมตช์วันที่ 10 ของศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งในคืนวันเสาร์ บรรดาทีมใหญ่ต่างลงสู่สนามกันครบถ้วน เนื่องด้วยกึ่งกลางอาทิตย์หน้ามีโปรแกรมบอลยุโรปให้ลงทำการชิงชัย แล้วก็สำหรับเรื่องราวน่าดึงดูด ก่อนเกมจะมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

“เลสเตอร์-อาร์เซน่อล” ข่าวดีของ เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นการที่ เจมี่ วาร์ดี้ กลับมาลงฝึกฝนกับทีมได้แล้ว ข้างหลังได้รับบาดเจ็บในเกมบุกชนะ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน มากไปกว่านั้น จากสถิติของ วาร์ดี้ กับการพบอาร์เซน่อล

นับว่าดีเลิศสุดๆ อดีตกาลดาวยิงทีมชาติอังกฤษ สอยตาข่าย “เดอะ กันเนอร์ส” ไปถึง 11 ประตูบนศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นทีมที่เขาทำคะแนนใส่ได้มากที่สุดเหนือกว่าทีมอื่นๆโดยมีเพียงแค่ เวย์น รูนี่ย์ แค่นั้นที่ยิง อาร์เซน่อล มากยิ่งกว่าเขา (12ประตู)

ข้างหลังผ่านช่วงเวลาย่ำแย่ระหว่างปี 1995-2018 ที่ไม่มีชัยเหนือ “ไอ้ปืนใหญ่” เป็นปริมาณ 22 ครั้งต่อๆกัน หลังจากนั้น “เดอะ ฟ็อกซ์” ก็สามารถเอาชนะ อาร์เซน่อล ได้ 4 จาก 7 เกมหลังสุดที่เจอะกันในลีก (เสมอ 1 แพ้ 2)

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กองหน้ากัปตันทีม อาร์เซน่อล มีส่วนร่วมกับประตู 5 จาก 6 นัดหลังในลีก ( 4ประตู 1แอสซิสต์) อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนั้นเกิดขึ้นยามเล่นในบ้านตัวเอง ขณะที่ประตูเกมเยือนครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ยิง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้

ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้มีผู้เล่นอายุต่ำกว่า 21 ปีที่สร้างโอกาสได้มากกว่า 10 ครั้ง 4 คน ซึ่งครึ่งหนึ่งคือผู้เล่นจาก อาร์เซน่อล ได้แก่ เอมิล สมิธ โรว์ (13) และ บูกาโย่ ซาก้า (14) โดยที่รายแรกทำแอสซิสต์ได้ 2 ครั้งจากการลงเล่น 4 เกมหลังสุด

“ลิเวอร์พูล-ไบรท์ตัน” สองเกมลีกหลังสุดของ ลิเวอร์พูล ร้อนแรงเกินห้ามใจ ทำการชิงชัย เมื่อพวกเขาบดบี้ไล่ขยี้คู่แข่งอย่าง วัตฟอร์ด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง 5-0 ซึ่งทำให้ “หงส์แดง” มีสิทธิ์ที่จะเป็นทีมที่ 3 ต่อจาก เชลซี เมื่อปี 2010

และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดปี 2017 ที่สามารถเอาชนะด้วยสกอร์ 5 ลูกหรือมากกว่านั้น 3 เกมติดต่อกัน หากถล่ม ไบรท์ตัน ด้วยสกอร์ดังกล่าวได้ในเกมนี้ แฮตทริกของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้เขาทำสกอร์ 10 ประตู

จากการลงเล่นไปแค่ 9 นัด โดยที่ดาวยิงอียิปต์ เป็นเพียงผู้เล่นคนที่ 3 ที่ทำสกอร์แตะเลขสองหลักก่อนลงเล่นเกมที่ 10 ของฤดูกาล ต่อจาก เลส เฟอร์ดินานด์ (นิวคาสเซิ่ล) ในปี 1995/96 และ โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน (เอฟเวอร์ตัน) เมื่อซีซั่นก่อน

จากที่เคยแพ้ ลิเวอร์พูล ตลอด 6 เกม พรีเมียร์ลีกที่เจอกัน แต่จนถึงตอนนี้ ไบรท์ตัน สามารถเก็บแต้มจาก “หงส์แดง” ได้ 4 คะแนนจาก 2 เกมหลังสุด ที่สำคัญคือบุกเอาชนะได้ที่ แอนฟิลด์ เมื่อฤดูกาลก่อนได้อีกด้วย

ทำการชิงชัย อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ดาวเตะอาร์เจนไตน์ ของ ไบรท์ตัน ทำสกอร์ได้ 2 ลูกจาก 7 เกมในฤดูกาลนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาทำประตูได้แค่ลูกเดียวเท่านั้นจากการลงเล่น 30 เกม โดยทั้งสามประตูที่เกิดขึ้นเกิดจากการที่ แม็ค อัลลิสเตอร์ ลงเล่นในฐานะตัวสำรอง ข่าวบอล

ทำการชิงชัย

“แมนฯ ซิตี้-คริสตัล พาเลซ”

ทำการชิงชัย เกมนี้จะเป็นนัดที่ 200 ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในการคุมทีมบนศึกพรีเมียร์ลีก โดยสถิติที่ผ่านมาคือชนะ 146 เสมอ 25 แพ้ 28 ซึ่งไม่ว่าผลการแข่งขันจะจบลงอย่างไร กุนซือชาวสแปนิช ก็จะเป็นผู้จัดการทีมที่คว้าชัยชนะมากที่สุดสำหรับการคุมทีมในรายการนี้ 200 นัดแรก

ในยามที่ “เรือใบสีฟ้า” ลงเตะเวลาบ่ายสามโมงที่ อังกฤษ นั้น พวกเขาแพ้คู่แข่งแค่เกมเดียวจาก 50 เกมหลังสุดที่เล่นในเวลานี้ (ชนะ 43 แพ้ 6) อย่างไรก็ดี ความพ่ายแพ้นัดเดียวเกิดขึ้นกับการเจอ คริสตัล พาเลซ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2018 โดยพ่ายไป 2-3

คริสติย็อง เบนเตเก้ กองหน้า “ดิ อีเกิ้ลส์” ลงเล่นเจอกับแมนฯซิตี้ 13นัด และยังไม่สามารถทำประตูใส่ “เรือใบสีฟ้า” ได้เลย ถึงกระนั้น ดาวยิงเบลเจี้ยน ทำได้ถึง 5 ประตูจากการลงเล่นเกมเยือน 10 เกมหลัง เทียบเท่ากับก่อนหน้านี้ที่ต้องใช้จำนวนนัดมากถึง 32 เกม

นับตั้งแต่กลับขึ้นมาเล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 2013/14 การเจอกับแมนฯซิตี้ ของ คริสตัล พาเลซ นั้น พวกเขาเสียประตูไป 39 ลูกจา 16 เกม โดยเก็บคลีนชีตได้แค่นัดเดียวเท่านั้น และทำประตูไม่ได้มากถึง 11 นัดด้วยกัน

“นิวคาสเซิ่ล-เชลซี” หาก โธมัส ทูเคิ่ล พา เชลซี เก็บชัยชนะได้ในเกมนี้ จะทำให้เป็นหนที่ 2 ที่เขาพาทีมเอาชนะในพรีเมียร์ลีก 4 เกมติดต่อกัน ซึ่งก่อนหน้านี้เกิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยเกมนัดที่ 4 ก็เกิดขึ้นในการเจอกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

6 นัดหลังที่ คัลลั่ม วิลสัน กองหน้า “สาลิกาดง” ลงสนาม เขาทำไป 6ประตู เทียบเท่ากับก่อนหน้านี้ 21 นัด นอกจากนี้ วิลสัน มองหาการซัดประตู 4 เกมติดต่อกันในลีก เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งหนก่อนเกิดขึ้นครั้งที่เขาเล่นให้กับ บอร์นมัธ เมื่อเดือนกันยายน ปี 2019

ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ผ่านมาแค่ 9 นัด แต่ เชลซี มีผู้เล่นที่ทำประตูมากหน้าหลายตาถึง 14 ราย ซึ่งเร็วที่สุดไม่เคยมีทีมไหนทำได้มาก่อน “เดอะ แม็กพายส์” แพ้ เชลซี 5 จาก 6 นัดหลังสุดที่เจอกันในลีก โดยชัยชนะล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ปี 2020

“สเปอร์ส-แมนฯยูไนเต็ด” เมสัน กรีนวู้ด กองหน้าดาวรุ่งแมนฯยูไนเต็ด ทำการชิงชัย ทำประตูได้ 5 ลูกจาก 7 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก และสำหรับการเล่นเกมเยือน กรีนวู้ด ซัดไปได้ถึง 9ประตู ส่วนในวัย 20 ปีกับอีก 29 วันที่เขาจะลงเล่นในเกมนี้

จะทำให้เจ้าตัวเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูเกมเยือนได้ถึง 10ประตู (ในกรณีที่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด) นับตั้งตั้งแต่ที่ เวย์น รูนี่ย์ เคยทำได้ในวัย 19 ปี 21 วัน เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2004 ซึ่งนัดที่ทำได้คือเกมที่ยิงใส่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในฐานะผู้เล่น “ปีศาจแดง”

แมนฯยูไนเต็ดคือทีมที่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ พ่ายแพ้ให้ในลีกมากที่สุดถึง 36 เกม ซน ฮึง-มิน กองหน้าพลังโสม มีส่วนร่วมกับประตูใส่ แมนยู 4 ลูกจาก 2 เกมหลัง (3ประตู 1แอสซิสต์) หลังจากก่อนหน้านั้น มีส่วนร่วมแค่ประตูเดียวในการเจอกับ “ปีศาจแดง” 8 เกมแรก

หลังจากที่โรนัลโด้ทำ 3 ประตูจาก 2 เกมแรกในศึกพรีเมียร์ลีก ให้กับแมนฯยูไนเต็ดซีซั่นนี้ จากนั้นเขาก็ไม่สามารถทำประตูได้อีกเลย นับเป็นจำนวน 4 นัดเข้าให้แล้ว โดยเป็นสถิติเป้าสะอาดในลีกนานที่สุดนับตั้งแต่สมัยเล่นให้ เรอัล มาดริด เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2017

ทำการชิงชัย และหากนับ 5 นัดที่ทำประตูไม่ได้ในลีก เกิดขึ้นครั้งล่าสุดตอนยังเล่นให้ “ผีแดง” คราวแรกในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน ปี 2008 ถึงเดือนมกราคม ปี 2009 ซึ่งตอนนั้นยิงไม่ได้ 9 เกมติด โอบาเดี้ยง