หงส์ผงาด 13 ธันวาคม 1981 ลิเวอร์พูลชิงถ้วยสโมสรโลกกับฟลาเมงโก ในนาม “โตโยต้า คัพ” หรือ Intercontinental cup ที่สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงโตเกียว

หงส์ผงาด ตอนนั้นผมอยู่ ประถม6 เด็กน้อยวัน 10ขวบ รับรู้แค่ว่า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยิ่งใหญ่มาก แชมป์ลีกอังกฤษ , แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ

“เครื่องจักรสีแดง” “หงส์แดงตะแคงยุโรป”

ส่วนฟลาเมงโก คือยอดทีมบราซิลที่ยึดอำนาจจาก ซานโต๊ส, โบตาโฟโก้ เพราะพวกเขามี ซิโก้ หรือ “เปเล่ ขาว”, จูเนียร์ส สองนักเตะทีมชาติบราซิล

อันเป็นยุคทองของพวกเขา

แข็งแกร่งและน่ากลัวนะ ทีมจากบราซิล!! เด็กหงส์ กลัวซะที่ไหน เรามี คิง เคนนี่, แกรม ซูเนสส์ , อลัน แฮนเซน, ฟิล ธอมป์สัน, บ๊อบ เพสลีย์ คุม

ตอนนั้น

เอียน รัช ยังเล่นทีมสำรองหงส์

เรียบร้อยครึ่งแรกก็โดนไป3-0 เจอลีลาแซมบ้าของจริง

ยุคแรกของบอลรายการนี้นั้น ฝั่งยุโรปไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ คือไม่เน้น แต่ยังมาแข่งเหมือนบอลรายการพิเศษ “หงส์แดง” ปฏิเสธ สองครั้งแรกนับ

จากคว้าแชมป์ยุโรป ต้องไม่ลืมว่าโปรแกรมแข่งแมตช์ นี้ทับซ้อนบอลลีกภายในตัวเอง ส่วนทีมอเมริกาใต้ ปิดซีซั่นละ

ดูรูปการณ์ ทีมอเมริกาใต้ ต้องการลงแข่งและอยากพิสูจน์ ความเก่งในเชิงบอลค่อนข้างมาก พวกเขาอยากพิสูจน์ว่าทีมตัวเองเก่งที่สุดในโลก นี่คือ

passion ในเกมกีฬาแค่ฟุตบอลนัดเดียวเหมือนรายการพิเศษ เหมือนปาหี่โชว์ของเกมฟุตบอลระดับโลกแค่ใช้คำว่า “สโมสรโลก” และ “แชมป์สโมสรโลก”

ที่ทางยูฟ่ากับคอนเมโบลร่วมมือกันจัดขึ้นมา

ครั้งต่อมาของ “หงส์แดง” ปี 1984ยุค โจ แฟแกน มีทั้ง เอียน รัช, เซอร์ เคนนี ดัลกลิช, แจน โมลบี เริ่มเข้ามาติดทีม, อลัน แฮนเซน โดย แกรม ซูเนสส์

ย้ายไปซามพ์โดเรียแล้ว ชุดนั้นเจอกับ อินดิเพนเดียนเต้ แชมป์ทวีปอเมริกาใต้

ทีมจากแดนฟ้าขาวมี. ฮอร์เก้ บูร์รูชาก้า หรือเมื่อก่อนอ่าน เบอร์รูชาก้า คงจำกันได้หลังจาก บูร์รูชาก้า คว้าแชมป์สโมสรโลกปี 1984 จากนั้นเขาย้าย

มาเล่นกับทีมในฝรั่งเศสคือ นองตส์ และสองปีต่อมาคือแชมป์บอลโลก1986 นั่นเอง

สิ่งที่เห็นชัดเจนมากขึ้นทั้งจากภาพข่าวและไฮต์ไลต์ รวมทั้งเบื้องหลังจากนิตยสารสตาร์ซอกเกอร์ คือ “แทกติก” และรูปแบบการเล่นที่ทีมจากแดนฟ้าขาวเน้นเกมรับแล้วสวนกลับ ส่วนหงส์แดง ดันเกมบุกขึ้นสูงเพราะมั่นใจในความเก่ง
จึงโดนสวนกลับแพ้ไป0-1

ครั้งที่สาม ลิเวอร์พูล แพ้ เซาเปาโล ในนามของฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2005 สตีเวน เจอร์ราร์ด และเพื่อนร่วมทีมชุดนั้น อดเป็นแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลก

คิดดูนะครับว่า ยอดโค้ชอย่าง เพสลีย์, เฟแกน, ราฟา ไม่สามารถพาทีมหงส์แดงคว้าแชมป์สโมสรโลก

จากนั้นเวลาผ่านไป 14 ปี!!! ยุคของ เจอร์เกน คล็อปป์ หงส์แดงกลับมาสโมสรโลกอีกครั้ง เข้าใจนะ…จะแข่งรายการนี้ต้องเป็นแชมป์ ชปล. เท่านั้น

นี่ตอนแรกมีอุปสรรคอยู่เหมือนกันเรื่องลีก คัพ โปรแกรมทับซ้อน..แต่ครั้งนี้ลิเวอร์พูลตัดสินใจไม่ยากในการเลือกมาแข่งขัน แชมป์สโมสรโลกทั้งที่โดน

ฟุตบอลลีกบีบบังคับโปรแกรมให้เตะในวันที่ 17 ธ.ค. ก่อนหน้าเกมแรกกับมอนเตอร์เรย์ 24 ชั่วโมง

ฟุตบอลลีกไม่เลื่อนหงส์ก็ส่งเด็กเล่น แล้วมาเน้นถ้วยสโมสรโลกแทน ถ้ามองมุมมูลค่าการตลาด ฟุตบอลลีกเสียมากกว่าได้ เมื่อเทียบกับบอลสโมสรโลก

ถ้วยที่ยุคก่อนอาจมีความหมายไม่มาก เอาไว้คุยข่มกัน แต่โลกยุคนี้แชมป์สโมสรโลกมันมีมูลค่าทางการตลาด มันส่งเสริมแบรนด์ สโมสรลิเวอร์พูล

ให้แข็งยิ่งๆขึ้น

โอเค…มาว่ากันถึงเบื้องหลังของเกมนัดนี้ ผมไม่ได้ดูแบบเต็มๆ นะครับเพราะโฟกัสคู่แมนฯซิตี้เตะกับเลสเตอร์ เพื่อวิเคราะห์ทางทรู วิชันส์ ในสตูดิโอ

ซึ่งผมก็เปิดสตรีมมิ่งดูหงส์ เอ้ยเชียร์หงส์ไปด้วยนั่นแหละ

ผมอยากได้แชมป์ใบนี้มากเพราะไม่เคยได้ เพราะถ้าได้มันคือหนึ่งในเกียรติประวัติของลิเวอร์พูล มันเติมเต็มความยิ่งใหญ่ให้ลิเวอร์พูล

ผมนั่งอ่านบทความของคอลัมนิสต์อังกฤษและบราซิล หลายๆคน พอสรุปใจความได้ว่า เกมคู่นี้ สูสี ใกล้เคียงกัน ทันกันทุกรูปแบบ ด้วยเพราะโค้ช

ฟลาเมงโก คือ ชาวโปรตุกีส มีชื่อเสียงฝีมือพอตัว นั่นคือ จอร์ช เชซุส แกเคยคุมสโมสรใหญ่ทั้ง เบนฟิก้าและสปอร์ติ้ง มาแล้ว

    ผลงานไม่ธรรมดา…แกพาฟลาเมงโก ทีมที่กลับมาร่ำรวยเพราะเจ้าของรวย555 คว้าแชมป์อเมริกาใต้ นี่ยิ่งสุดยอด

ดังนั้นเชิงแทกติกถือว่าใกล้เคียง ทันกันเป็น two well-matched, positive and high-calibre teams. คือสองทีมที่มีความสามารถทัดเทียมกัน และเป็นสองทีมผลงานระดับสุดยอดของทวีปมาเจอกัน

ชัยชนะและความพ่ายแพ้เกมนี้ตัดสินที่ “ใครเด็ดขาด” หรือใครมีดาบที่คมมากกว่ากัน หรือภาษาอังกฤษคือ cutting edge นั่นแหละ จุดนี้ “เด็กหงส์”

มี และมีในช่วงต่อเวลาพิเศษอีกสามสิบนาที

นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า….เจอร์เก้น คลอปป์ ได้วางรากฐานตั้งแต่แทกติกการเล่นและมันยกระดับไปถึง mentality หรือหัวจิตหัวใจของนักเตะที่ต้อ

งต่อสู่ในเกมที่ยากลำบาก

เด็กหงส์ของ เจเค สอบผ่านเรื่องนี้นับจากชนะในช่วงเวลายากลำบากตั้งแต่แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่มปีที่แล้วโน่น ผ่านนาโปลี นัดสุดท้าย

กรุยทางมาก่อนล้มบาร์เซโลนาในแอนฟิลด์ คว้าแชมป์ยุโรปทั้งที่เล่นไม่ดีนัก

ภูมิต้านทานความกดดันตรงนี้….มันเข้าไปอยู่ในหัวของเด็กหงส์หมดแล้ว

นี่เองที่เป็นจุดที่ชี้ขาดให้ชนะฟลาเมงโก

สิ่งเหล่านี้ได้ก่อร่างสร้างตัว สะสมเข้าไปในเส้นเลือดของทั้งทีมรวมทั้งแฟนบอลหงส์แดง ด้วยเมื่อต้องเล่นเพื่อชนะ เล่นเพื่อแชมป์ พวกเขา

จะต้องผ่านการทดสอบอะไรบ้าง

เหมือนอย่างที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้พูดกับสื่อมวลชนว่า ลูกทีมของเขา ผ่าน”การการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า”

เจเค ย่อมภูมิใจในตัวนักเตะของเขาและนักเตะของเขาก็ได้รับความภูมิใจจากสาวกลิเวอร์พูลทั่วโลก https://line.me/R/ti/p/%40ufabetwins

ที่ฝ่าฟันจนทำให้แชมป์สโมสรโลกกลายเป็นประวัติศาสตร์ลิเวอร์พูลไปเรียบร้อยแล้ว

ส่วนตัวผมเอง…ยอมรับว่า “รอคอย” และอยากได้ถ้วยนี้มานานนับตั้งแต่อยู่ชั้นประถม6 เพราะลิเวอร์พูลยังขาดเกียรติยศใบนี้เท่านั้น

โอย…เวลาผ่านไป 38 ปี แล้วหรือนี่ จากเด็กน้อย10 ขวบ พึ่งได้ฉลองแชมป์สโมสรโลก พร้อมเด็กๆยุคนี้

หน้าแรก >>> ข่าวฟุตบอล