เจอร์ราร์ดกลับบ้าน แฟนบอลลิเวอร์พูล คงรู้สึกเนื้อเต้นไม่น้อยในแมตช์ที่จะต้องต้อนรับ แอสตัน วิลล่า ที่สนามแอนฟิลด์

เจอร์ราร์ดกลับบ้าน แฟนบอลลิเวอร์พูล คงรู้สึกเนื้อเต้นไม่น้อยในแมตช์ที่จะต้องต้อนรับ แอสตัน วิลล่า ที่สนามแอนฟิลด์ เพราะพวกเขาจะได้เห็น สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานสโมสรกลับบ้านอีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีม “สิงห์ผงาด”

ขณะเดียวกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน อาจจะต้องเจอเรื่องปวดหัวอีกแล้ว เพราะยังคงต้องลุ้นว่า ดีโอโก้ โชต้า จะฟิตทันลงสนามแมตช์นี้หรือไม่ ถ้าหากลงไม่ได้งานนี้ ดิว็อค โอริกี้ พร้อมสแตนด์บายลงเล่นทันที

ที่สำคัญแมตช์นี้ “หงส์แดง” ต้องเก็บสามแต้มให้ได้ ไม่งั้นมีสิทธิ์ที่จะโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงทำแต้มทิ้งห่างได้เลยทีเดียว เจอร์ราร์ดหวนคืนแอนฟิลด์ แมตช์นี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างมากสำหรับสาวก “เดอะ ค็อป” เพราะพวกเขาจะได้ต้อนรับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกัปตันทีม

และเป็นไอดอลของสโมสร ที่จะกวนกลับมายังแอนฟิลด์ในฐานะกุนซือแอสตัน วิลล่า แน่นอนว่าแมตช์นี้ยังคงเป็นเกมที่มีความเข้มข้นเพราะทั้งสองทีมต้องห่ำหั่นเพื่อคว้าชัยชนะให้ได้ แต่ในขณะเดียวกันแฟนบอล “หงส์แดง” คงรู้สึกตื้นตันที่ได้เห็น “สตีวี่จี” กำลังเติบโตในฐานะผู้จัดการทีม

ผลงานของ เจอร์ราร์ด ในการสร้าง เรนเจอร์ส ให้กลายเป็นทีมแกร่งจนคว้าแชมป์ลีกสกอตแลนด์ แบบไร้พ่ายเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ถือว่าสุดยอดแล้ว แต่การมาคุม “สิงห์ผงาด” พร้อมกับสถิติที่สวยหรูด้วยการชนะ 3 เกมแพ้ 1 แมตช์ให้กับ แมนฯ ซิตี้ เท่านั้น ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา

ในสนามบอกเลยว่า เจอร์ราร์ด เต็มที่แน่นอน และ เจอร์เก้น คล็อปป์ ประกาศชัดเจนว่าอยากให้ “สตีวี่จี” ใส่ให้สุด และแสดงความดีใจได้แบบไม่ต้องยั้ง เพราะนี่คือการแข่งขันอย่างมืออาชีพ และทุกๆ คนที่ “เดอะ เร้ดส์” เข้าใจ แต่เมื่อจบเกมทุกอย่างจะยังคงเป็นมิตรภาพที่สวยงามระหว่างกันและกันเหมือนเดิม

ที่สำคัญแมตช์นี้จะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบกึ๋น เจอร์ราร์ด หลังจากที่เขาแสดงให้เห็นมาแล้วในการสู้กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้อย่างยอดเยี่ยมแม้จะแพ้ก็ตาม แต่หลายคนบอกว่าฝีมือของเขาไม่ธรรมดาจริงๆ ดีไม่ดีนี่อาจจะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ “พี่เจิด” จะก้าวมาเป็นทายาทของ คล็อปป์ ในอนาคต

โชต้า ลุ้นฟิตมีสิทธิ์ โอริกี้ ลงโชว์เทพ ปัญหาเรื่องนักเตะบาดเจ็บยังคงตามหลอกหลอนลิเวอร์พูลตั้งแต่ต้นฤดูกาลนี้ แต่ครั้งนี้ค่อนข้างจะน่าเป็นห่วงเนื่องจากมีรายการว่า ดีโอโก้ โชต้า แนวรุกตัวเก่งยังต้องลุ้นว่าจะสามารถลงสนามรับมือ “สิงห์ผงาด” ได้หรือเปล่า

กองหน้าชาวโปรตุเกส มีปัญหาบาดเจ็บมาตั้งแต่เกมเฉือน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ส่งให้นักเตะยังไม่ฟิตเต็มร้อย และงานนี้มีความเป็นไปได้ที่ คล็อปป์ จะไม่เสี่ยงส่งเขาลงสนาม และอาจหันมาใช้งาน ดิว็อค โอริกี้ ในแมตช์นี้ มหาเทพชาวเบลเยียม กำลังมั่นใจในการเล่นหลังจากยิงประตู 2 เกมติดกันได้

แก่การซัดประตูชัยช่วงนาทีบาปเฉือน วูล์ฟส์ และเผด็จศึก เอซี มิลาน ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ดังนั้น โอริกี้ ถือว่าฟอร์มกำลังอยู่ตัว สามารถที่จะลงเล่นหน้าเป้าโดยที่ ซาดิโอ มาเน่ กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ค่อยโฉบเฉี่ยวทางริมเส้น

อีกหนึ่งข่าวดีในแมตช์นี้ก็คือ โจ โกเมซ กับ นาบี เกอิต้า กลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว แต่คงไม่ได้ลงตัวจริง เนื่องจากแดนกลาง “หงส์แดง” อย่าง ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม

เจอร์ราร์ดกลับบ้าน ขณะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กลับมาซ้อมได้แล้ว แต่คาดว่าจะกลับมาลงเล่นได้ในเกมพบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด วันพฤหัสบดีหน้า ข่าวบอล

เจอร์ราร์ดกลับบ้าน

สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานสโมสรกลับบ้านอีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีม “สิงห์ผงาด”

เจอร์ราร์ดกลับบ้าน โม ซาลาห์ โหดระห่ำซัดไม่เลี้ยง ตอนนี้หลายๆ คนยกย่อง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกไปแล้ว โดยเขาตะบันไปแล้ว 20 ประตูจากการเล่นทุกรายการให้กับต้นสังกัดตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

ฟอร์มของ “บังโม” ร้อนแรงเกินห้ามใจทั้งในพรีเมียร์ลีก และแชมเปี้ยนส์ ลีก โดยผลงานแบบนี้ ซาลาห์ เคยทำมาแล้วในซีซั่นเปิดตัว 2017/2018 กับ ลิเวอร์พูล ด้วยการตะบันไปถึง 19 ประตูจากการลงเล่น 24 แมตช์ และจบฤดูกาลด้วยสถิติ 44 ประตูในทุกรายการ

แต่สำหรับซีซั่นนี้เขาซัดไป 20 ประตูจากการเล่น 21 เกมเท่านั้น หาก กองหน้าชาวอียิปต์ ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แน่นอนว่ามันจะเป็นเครื่องการันตีที่ดีเยี่ยมว่า เขากำลังก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในหน้า ประวัติศาสตร์สโมสรลิเวอร์พูล

สำหรับ ซาลาห์ ไม่ใช่แค่ผลงานการยิงประตูที่สุดยอดเท่านั้น แต่เขายังมีส่วนร่วมกับเกมตลอด โดยเฉพาะการทำแอสซิสต์ซึ่งทำได้ถึง 9 ครั้งในซีซั่นนี้ ฉะนั้นต้องบอกเลยว่า “บังโม” คือแข้งคีย์แมนสำคัญที่สโมสรขาดไม่ได้จริงๆ

เลือกคู่หูแนวรับ ฟาน ไดค์ ตอนนี้กองหลังของ ลิเวอร์พูล ต้องบอกเลยว่าแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเพราะ คล็อปป์ มีตัวเลือกให้ใช้งานได้ไม่อั้นทั้ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โฌแอล มาติป, อิบราฮิม่ โกนาเต้ และ โกเมซ ที่เพิ่งหายเจ็บ และกลับมาลงสนามได้แล้ว

เกมในค่ำคืนฟุตบอลถ้วยใบโตยุโรป กุนซือชาวเยอรมัน จัดส่ง โกเมซ ลงสนามในฐานะผู้เล่นกำลังซึ่งผลงานของเขาอาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก แตสิ่งที่น่าประทับใจก็คือนักเตะสามารถได้อย่างเต็มที่ และไม่มีสัญญาณว่าเขามีปัญหาบาดเจ็บอีกต่อไป

สำหรับเกมรับมือ วิลล่า งานนี้ตัวหลักอย่าง ฟาน ไดค์ ยังคงได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่คุมแนวรับของทีมเหมือนเดิม ส่วนคู่หูต้องเลือกระหว่าง มาติป กับ โกนาเต้ โดยในรายหลังกำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง ขนาด ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ว่าแน่ๆ ยังสู้ความแกร่งของเขาไม่ได้เลย

อย่างไรก็ตามด้วยการที่มีโปรแกรมแน่นแบบนี้ คล็อปป์ อาจเลือกใช้วิธีการส่ง มาติป จับคู่กับ ฟาน ไดค์ โดยทั้งสองคนก็ทำผลงานได้ดีร่วมกันมาตลอดนับตั้งแต่ต้นฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ รักษาแรงกดดันไล่บี้แย่งแชมป์ลีก แมตช์นี้ไม่ใช่โปรแกรมที่หนักมากนัก

สำหรับ ลิเวอร์พูล ฉะนั้นเป้าหมายสำคัญก็คือการพยายามเก็บชัยชนะ เพื่อคว้าสามคะแนนให้ได้ เพราะนั่นจะทำให้การไล่บี้แย่งแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงใกล้ชิดแบบหายใจรดต้นคอ ปัจจุบัน “หงส์แดง” มี 34 คะแนนตามหลัง “เรือใบสีฟ้า” แค่ 1 แต้มเท่านั้น

โดยสัปดาห์นี้ทีมของกุนซือเป๊ป กวารดิโอล่า ต้องลงแข่งก่อนในแมตช์รับมือ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ซึ่งดูแล้วพวกเขาคงเก็บสามแต้มได้ ฉะนั้น ลิเวอร์พูล ที่ต้องลงเล่นคู่หลังต้องพยายามเก็บชัยชนะในแมตช์กับ วิลล่า ให้ได้เพื่อที่พวกเขาจะได้ไล่บี้กับ แมนฯ ซิตี้ ต่อไป

โดยหากพลาดท่าทำได้เพียงแค่เสมอ หรือที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือแพ้ นั่นยิ่งไม่เป็นผลดีต่อสภาพจิตใจของนักเตะ “เดอะ เร้ดส์” อย่าลืมว่าในช่วงเดือนธันวาคมถือเป็นช่วงที่เกมลูกหนังเมืองผู้ดีเตะกันถี่ยิบมากๆ และที่สำคัญ แมนฯ ซิตี้

เจอร์ราร์ดกลับบ้าน มักจะมาเร่งเครื่องในช่วงเดือนสุดท้ายของปีเป็นประจำ ดังนั้นการเก็บชัยชนะคือเป้าหมายหลักของ คล็อปป์ แอนด์ โค. ในเกมนี้ ฟอร์มเก่งมาก