เจอร์ราร์ดเดอะค๊อป ความรักและความศรัทธาต่อหงส์แดง

เจอร์ราร์ดเดอะค๊อป นักเตะที่เขาชื่นชอบคือ จอห์น บาร์นส์ แน่นอนล่ะ ในทุกๆ วัน เจอร์ราร์ด จะใช้เวลาหลายชั่วโมงพยายาม ที่จะเป็นเหมือนฮีโร่ของตัวเอง ให้ได้ตอนนั้น เจอร์ราร์ด จัดว่าเป็นคนที่ชอบเลี้ยงบอล ตามสไตล์การเล่นของไอดอล

เขาชอบท้าดวลกับเด็ก ที่โตกว่าจากย่าน บลูเบล เอสเตต อยู่บ่อยๆ ซึ่งนั่นทำให้ เจอร์ราร์ด มีทักษะที่เก่งขึ้น และโดดเด่นกว่าใครๆ ในทีมฟุตบอลระดับเยาวชนซึ่ง ลิเวอร์พูล มองเห็นพรสรรค์ของเด็กคนนี้ แล้วจับเซ็นสัญญาตั้งแต่ตอนที่ เจอร์ราร์ด อายุ 9 ขวบ

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายการเลี้ยงบอลที่ตัวเองโปรดปราน ต้องหลีกทางให้กับ พรสวรรค์ที่แท้จริงที่มีในตัว คือ การผ่านบอลระยะไกล และเทคนิคการยิง อันยอดเยี่ยมถึงกระนั้น ด้วยการที่ เจอร์ราร์ด ตัวเล็กกว่าเด็กทั่วไป เขาโดนทีมเยาวชนระดับชาติมองข้าม

ตอนอายุ 14 ปี เขาถูกมองว่าไม่มีดีพอ ที่จะเล่นกับโรงเรียน สอนฟุตบอลของ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ที่ย่านลิลเลสฮอลล์ ต่างกับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ และ ไมเคิล โอเว่น ที่ถูกจับตามองจากโรงเรียนนี้และกว่าที่ เจอร์ราร์ด จะตัวโตขึ้นเหมือนเด็กทั่วไป

ก็ต้องรอจนถึงช่วงอายุ 15-17 ปีในทางตรงกันข้าม ลิเวอร์พูล รู้ดีว่าพวกเขามีของดีอยู่ในมือ จากการที่เอา เจอร์ราร์ด มาร่วมทีมได้สตีฟ ไฮจ์เวย์, เดฟ แชนนอน และ ฮิวจ์ แม็คออลี่ย์ โค้ชเยาวชนคือ ผู้ที่ช่วยฝึกสอนให้ เจอร์ราร์ด เป็นกองกลางชั้นยอดให้กับ อะคาเดมี่ของ ลิเวอร์พูล

เจอร์ราร์ดเดอะค๊อป

ย้อนไปตอนอายุ 10 ขวบ ระหว่างที่เขาพยายาม ไปเก็บบอลในพงหญ้า เขาโดนคราดแทงเข้าที่นิ้วหัวแม่เท้า ตอนนั้นแพทย์มองว่าอาการมันหนักถึงขั้น อาจต้องตัดนิ้วเท้าทิ้ง แต่ ไฮจ์เวย์ ก็รีบพาหนูน้อย เจอร์ราร์ด ไปที่โรงพยาบาลเพื่อเกลี้ยกล่อมให้หน่วยงาน

ทางการแพทย์เห็นพ้องว่ามันไม่จำเป็น ถึงขั้นนั้นแรงผลักดันของ เจอร์ราร์ด คือการได้เล่นให้ทีมรัก เขาเอาแรงบันดาลใจจากคนใกล้ตัว ที่เกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของ ลิเวอร์พูล นั่นคือ จอน พอล จิลฮูลี่ย์ ลูกพี่ลูกน้องของเขา ซึ่งเป็นคนที่มีอายุน้อยที่สุดที่เสียชีวิต

ในเหตุการณ์ฮิลส์โบโร่ตอนที่ เจอร์ราร์ด ยังเป็นเด็กใน อะคาเดมี่ เขาเปิดใจว่า ความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จมันเพิ่ม เป็นทวีคูณเมื่อได้เห็นพ่อ และแม่ของ จอน พอลเกมแรกของ เจอร์ราร์ด กับ ลิเวอร์พูลชุดใหญ่ เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 1998 เชราร์ด อุลลิเย่ร์

มอบโอกาสให้ลงเล่นแทน เวการ์ด เฮ็กเก้ม เกมที่ “หงส์แดง” เอาชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-0 ที่ แอนฟิลด์ ในวัย 18 ปี มันคือสิ่งที่เติมเต็มความฝันในวัยเด็ก ซึ่งจากเกมนั้นถือเป็นการนับหนึ่งบนถนน สายลูกหนังสู่การเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดของสโมสร ลิเวอร์พูลแม้ว่า เจอร์ราร์ด

ได้รับการยกย่องว่าเป็นมิดฟิลด์ ตัวกลางที่ดีที่สุดในรุ่น แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่า การปรับตัว คือสิ่งที่สำคัญตลอดอาชีพการเล่น เราเห็นทักษะอันหลากหลายของ เจอร์ราร์ด ความฉลาดด้านแท็กติก และให้ความสำคัญกับการพาทีมมีผลงาน ดีขึ้นมากกว่าผลประโยชน์ของตัวเอง

เจอร์ราร์ดเดอะค๊อป

จากแบ็กขวาสู่กองกลางตัวรับจอมบู๊ เจอร์ราร์ด มีความโดดเด่นในด้านการเข้าสกัด แบบดุดันและทำเกมสวนกลับเร็วทันที ด้วยการผ่านบอลระยะไกลอันที่จริง การเข้าสกัดแบบโผผางนี้เคยทำให้คน ในสโมสรเป็นกังวลเหมือนกันตอนอายุ 16 ปี บิลล์ บีสควิค นักกายภาพบำบัดของ ลิเวอร์พูล

พยายามอย่างหนักเพื่อ ลดความก้าวร้าวและการพุ่งเข้าหาคู่แข่งของ เจอร์ราร์ด ให้เป็นการเข้าสกัดเหมือนคนทั่วไป ความรับผิดชอบบนพื้นที่แดนกลางของ เจอร์ราร์ด เพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับการ เป็นหัวหน้าทีมเจอร์ราร์ด เป็นศูนย์กลางบนแผงมิดฟิลด์ รับบทบาททุกอย่างไม่ว่าจะบ็อกซ์

ที่ต้องใช้พลังงานมหาศาล, ความก้าวร้าวในการเบรคเกมคู่แข่ง หรือการโจมตีที่อาศัย การผ่านบอลทุกสิ่งที่กล่าวมา เจอร์ราร์ด ทำได้หมดจากข้อดีที่มีในตัวยกตัวอย่าง ในเกมเดียวที่เขาต้องเล่นถึง 4 ตำแหน่ง คือเกมนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005เจอร์ราร์ด เริ่มต้นด้วยการเป็นมิดฟิลด์ตัวต่ำ

จากนั้นครึ่งหลังขยับขึ้นมา เล่นตัวรุกเพื่อซัพพอร์ต มิลาน บารอส โดยช่วงท้ายเกมเขาถูกถ่างไปทางกราบขวาแล้ว สลับลงมาเล่นวิงแบ็คคอยช่วยเกมรับ ฤดูกาลถัดมาหลังคว้าแชมป์ยุโรป 2005

ราฟา เบนิเตซ โดนรุมวิจารณ์อย่างหนักตอนที่เอา เจอร์ราร์ด มาเล่นเป็นปีกขวา ซึ่งตัว เจอร์ราร์ด เองก็ไม่พอใจเท่าไหร่ที่เป็นแบบนี้ แม้ว่าซีซั่นนั้นเขาจะทำได้ถึง 23 ประตูก็ตาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง >>> ตัวแทนลอฟเรน

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ >>> ข่าวบอล