เชอร์วู้ดเชียร์ โรนัลโด้อาจจะถึงขั้นกลายมาเป็นผู้จัดการทีมของปีศาจแดง

เชอร์วู้ดเชียร์ ทิม เชอร์วู้ด ระบุ ในมุมมองของตนนั้น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อาจจะผันตัวมาเป็นนายใหญ่ของ ปีศาจแดง ในอีก 18 เดือนต่อจากนี้ก็ได้ หลังจากที่เขามองว่าโรนัลโด้ น่าจะมาทำอาชีพโค้ชในภายภาคหน้าแน่นอน

ทิม เชอร์วู้ด อดีตดาวเตะชาวอังกฤษ แสดงความเชื่อว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งซูเปอร์สตาร์ของ ปีศาจแดง อาจจะถึงขั้นกลายมาเป็นโค้ชของ ปีศาจแดง ในเร็วๆ นี้ก็ได้ หลังจากที่โรนัลโด้ ลุกขึ้นมาแสดงท่าทางเหมือนเป็นโค้ชในนัดกับ ยัง บอยส์ เวนเกอร์ขอบ่น

จังหวะนั้นโรนัลโด้ ลุกขึ้นมาเพราะแสดงท่าทางไม่พอใจกับการตัดสินของกรรมการ ซึ่งมีบางคนที่มองว่ามันเป็นพฤติกรรม ที่ไม่เหมาะสมเพราะตอนนั้น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ยืนพูดบางอย่างอยู่แล้ว โดยที่จริงโรนัลโด้ ก็เคยทำแบบนี้ให้เห็นมาแล้วเหมือนกัน อย่างเช่นตอนไปเล่นกับทีมชาติโปรตุเกส เป็นต้น

เชอร์วู้ดเชียร์

เชอร์วู้ด เผยว่า ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นเรื่องโอเคที่ โรนัลโด้ ลุกมาพูดบางอย่างตรงข้างสนาม และ โอเล่ ก็ต้องยอมรับเรื่องแบบนั้น ถ้าเขาเอานักเตะแบบนั้นมาอยู่กับทีมแล้วล่ะก็ เขาก็ต้องรู้ดีว่าคนที่เอาเข้ามา อยู่กับทีมน่ะทำอะไรกันได้บ้าง

นี่คือโรนัลโด้ ที่ต่างไปจากคนที่เคยอยู่ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในสมัยแรก เขารู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไร และถ้าเขาคิดว่าเขาจำเป็นต้องมา ยืนข้างโค้ชแล้วให้คำแนะนำบางอยาางแล้วล่ะก็ คุณก็ต้องยอมปล่อยให้เขาทำตามนั้น ผมไม่มั่นใจว่าเขาจะทำอย่างนั้น

หาก โชเซ่ มูรินโญ่ อยู่ในตำแหน่งรึเปล่า มันจะต่างไปอย่างสิ้นเชิงถ้าเขา มูรินโญ่ ยังคุมทีมอยู่ แต่อีกแง่หนึ่ง คุณก็ต้องถามโรนัลโด้ ด้วยว่าทำไมเขาถึงรู้สึกว่า ตัวเองจำเป็นต้องลุกขึ้นมา ให้คำแนะนำด้วย

เราเคยเห็นเขาทำอย่างนั้น ในระดับทีมชาติมาแล้ว อย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นในศึก ยูโร เขาลุกขึ้นมาสั่งการบางอย่าง ในอนาคตเขา จะกลายเป็นโค้ชแน่นอน ผมยอมพนันด้วยว่า เขาจะเป็นโค้ชของ ปีศาจแดง ในอีก 18 เดือนต่อจากนี้ ผมเชื่อว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่โรนัลโด้ เลิกเล่นแล้วน่ะเขา ก็จะหันไปเป็นโค้ชทันที มันเป็นตัวเลือกแบบอัตโนมัติก็ว่าได้

โรนัลโด้ลุกขึ้นมาแสดงท่าทาง เหมือนเป็นโค้ชในนัดกับยังบอยส์

การกลับมาร่วมทีม ปีศาจแดง เป็นครั้งที่ 2 ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นอกจากจะส่งผลในแง่ ของฟุตบอล และธุรกิจของปีศาจแดงแล้วโรนัลโด 2.0 ยังส่งแรงกระเพื่อม ไปยังนักฟุตบอลคนอื่นๆ ในทีม อาจจะเลยเถิดไปถึงผู้เล่นในพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว

เริ่มจากเรื่องพฤติกรรม การทานอาหาร ลี แกรนท์ ผู้รักษาประตู วัย 38 ปี ของปีศาจแดง บอกว่า ค่ำวันที่ 10 กันยายน 2021 หนึ่งวันก่อนที่ปีศาจแดง จะเอาชนะนิวคาสเซิล 4-1 ประตู และดาวเตะโปรตุเกส ทำสองประตู ตามปกติผู้เล่นจะทาน ของหวานหลังมื้อเย็น

แต่การมาของโรนัลโด้ ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป คุณจะทานแอปเปิ้ล ครัมเบิล และคัสตาร์ด หรือคุณอาจจะทานบราวนี และครีม ผมบอกคุณตอนนี้เลย ไม่มีผู้เล่นคนไหนไปหยิบบราวนี เพราะทุกคนนั่งลง หนึ่งในผู้เล่นพูดกับผมว่า อะไรอยู่ในจานของโรนัลโด้

เชอร์วู้ดเชียร์

นายด่านปีศาจแดงบอกต่อว่า พวกเราทำตัวอยากรู้อยากเห็น ว่าเขาทานอะไร และแน่นอนว่ามันคลีนมาก เป็นอาหารจานที่เฮลตี้เท่า ที่คุณจะจินตนาการได้ และมันทำให้ผมขำตรงที่ ไม่มีนักฟุตบอล คนไหนกล้าลุกขึ้น และไปหยิบของหวานมาทาน ผมบอกคุณได้ว่า หนึ่งในจานของเขามีคินัว, อะโวคาโด และไข่ต้ม 2-3 ใบ

ถ้าหาก ลิโอเนล เมสซี ถูกสร้างขึ้นมาจากพรสวรรค์ คริสเตียโน โรนัลโด้ ก็คือความสำเร็จของความเป็นมืออาชีพ ความต้องการที่จะเป็นที่หนึ่ง ของตัวเขาเอง หลังจากที่เจ้าตัวทำสถิติ กลายเป็นผู้เล่นที่ทำประตู ในนามทีมชาติมากที่สุด ในโลกที่ 111 ประตู

จุดเริ่มต้นของซูเปอร์สตาร์มากมาย ในวงการกีฬาเกิดจากครอบครัว ความสัมพันธ์ของพ่อ-ลูก แรงขับ ที่ทำให้ใครสักคนเป็นที่หนึ่ง บ่อยครั้งเกิดจากความพยายาม ที่จะทำให้ใครสักคนภูมิใจ หรือไม่ก็ความต้องการ เอาชนะบางสิ่งบางอย่าง เชอร์วู้ดเชียร์

โรนัลโด้ ในวัย 12 ปี เกิดอาการคิดถึงบ้าน เมื่อต้องไปอยู่ในอะคาเดมี ของสปอร์ตติ้ง ลิสบอน พ่อของเขามาดูเขา ลงเล่นฟุตบอลบ้าง แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับการดื่มสุรา คุณแม่คือคนที่เลี้ยงดู และอยู่เคียงข้างโรนัลโด้มาตลอด ข่าวบอล