เปิดฟอร์ม3 ภายหลังที่รอกันมาพักหนึ่ง ท้ายที่สุดก็มีการประกาศแล้วว่า 3 คนท้ายที่สุดที่กำลังจะได้ลุ้นรางวัล นักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2020-21
เปิดฟอร์ม3 ภายหลังที่รอกันมาพักหนึ่ง ท้ายที่สุด ก็มีการประกาศแล้วว่า 3 คนท้ายที่สุด ที่กำลังจะได้ลุ้นรางวัล นักฟุตบอลชายยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาล 2020-21 ของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) จะประกอบไปด้วย
เควิน เดอ บรอยน์, จอร์จินโญ่ แล้วก็ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ถึงแม้ว่านักฟุตบอล มีชื่อเสียงอย่าง ลืโอเนล เมสซี่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หรือ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ จะไม่ติดโผ 3 คนในที่สุด
แต่ว่าลิสต์รายชื่อผู้เข้าร่วมแข่งขันรางวัลในปีนี้ก็นับว่ามีเหตุผลแล้ว เมื่อพิจารณาถึงผลงานและก็การบรรลุผลที่พวกเขาทำเป็นตลอดทั้งฤดูกาลก่อน ซึ่งวันนี้พวกเราจะมาทดลองย้อนมองกันสักนิดสักหน่อยว่าในตอน 1 ปีที่ล่วงเลยไปนั้น
ผลงานของทั้งสิ้นอยู่ในระดับไหน ถ้าว่ามันจะก่อให้ท่านคนอ่านเลือกได้ว่าใครกันแน่ที่คู่ควรกับการได้รางวัลอันมีเกียรติไปครอบครอง โดยจะเน้นเปรียบเทียบที่ข้อดีของแต่ละคนตามตำแหน่งของพวกเขา https://www.midwestregionalleague.com/
นั่นคือกรณีของ เดอบรอยน์ จะเจาะลึกตรงเกมรุกมากยิ่งกว่า ส่วนของ จอร์จินโญ่ กับ ก็องเต้ จะดูตรงเกมรับมากมายเป็นพิเศษโดยจะแทรกสอดประเด็นการผ่านบอลเข้าไปนิดหน่อยเดอบรอยน์ สำหรับการลงเล่นพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลก่อนนั้น
สโมสรฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) จะประกอบไปด้วย เควิน เดอ บรอยน์, จอร์จินโญ่ และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้
เปิดฟอร์ม3 เดอบรอยน์ยังตอกย้ำซ้ำเติมถึงการยอดเยี่ยมมิดฟิลด์จอมปั้นได้อย่างยอดเยี่ยม เขามีค่าเฉลี่ยการส่งบอลที่เป็นจังหวะสำคัญในพรีเมียร์ลีก มากถึง 3.2ครั้งต่อเกม ในเวลาที่ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเขาทำแบบงั้นได้นัดหมายละ 1.9ครั้ง
ส่วนในศึกยูโร2020 แม้ว่าเขาจะได้ลงเล่นไปเพียงแค่ 4 นัดหมาย แต่ว่าจำนวนด้านนี้ก็มากถึงระดับ 3.3 ครั้งต่อเกมร่วมกัน นอกเหนือจากนี้ เปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลโดยรวมเข้าเป้าของเดอบรอยน์ สำหรับการลงเล่น พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลก่อน
ยังมากถึง 81.7 เปอร์เซ็นต์ด้วย ส่วนในแชมเปี้ยนส์ลีก ยิ่งทำเป็นดียิ่งกว่าอีกในระดับ 84.2เปอร์เซ็นต์ หากแม้ในยูโร2020 มันจะดร็อปลงไปอยู่ที่ 79.3เปอร์เซ็นต์ แต่ว่าก็ยังไม่ใช่จำนวนที่ตกอับเหลือเกินเท่าไรนัก
ตอนที่การเลี้ยงบอลนั้น เดอบรอยน์ก็ทำเป็นสะดุดตาด้วยเหมือนกัน ภายหลังจากเลี้ยงผ่านคู่ต่อสู้ในลีกได้เฉลี่ย 1.9ครั้งต่อเกม, ทำเป็น 1.4 ครั้งต่อนัดหมาย สำหรับเพื่อการเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก และก็ทำเป็น 2.5 ครั้งต่อเกมกับการเล่นให้ เบลเยียมในศึกยูโร 2020
จอร์จินโญ่ 2ครั้งต่อเกม เป็นค่าถัวเฉลี่ยการสกัด โดนบอลในลีกของ จอร์จินโญ่ ตลอดการเล่นเมื่อฤดูกาลก่อน ระหว่างที่ในแชมเปี้ยนส์ลีก เขาทำอย่างงั้นได้ถึง 2.2ครั้งต่อเกม แล้วก็กับการเล่น ให้ทีมชาติอิตาลีในศึกยูโร2020 คารมณ์สเปอร์ส
เขามีตัวเลขด้านนี้มากถึง 1.9 ครั้งต่อนัดหมาย ในตอนที่การอ่านเกมที่เด็ดขาด กระทั่งตัดบอลได้แบบ ไม่ต้องพุ่งเสียบนั้น จอร์จินโญ่ก็ทำผลงาน ด้านดังที่ได้กล่าวมา แล้วกับการเล่นในลีกได้ถึงเฉลี่ย 1.4ครั้งต่อเกม ส่วนในแชมเปี่ยนส์ลีก
เจ้าตัวสามารถทำเป็น 2.2 ครั้งต่อนัดหมายเลยทเดียว รวมทั้งในศึกยูโร2020 เขาก็ส่งผลงานด้านนี้มากถึง 3.6 ครั้งต่อนัดหมายร่วมกัน ในด้านการส่งบอลนั้น ถึงแม้ว่าค่าถัวเฉลี่ยการผ่านบอลที่เป็นจังหวะสำคัญของเขา
จะสะดุดตาเท่ากองกลางตัวรุกอย่าง เดอบรอยน์ไม่ได้ แต่ว่าเปอร์เซ็นต์การส่งบอลตรงเป้าของเขาก็ดูดีสุดๆด้วยแนวทางการทำไป 89.2 เปอร์เซ็นต์ในลีก, 88.5 เปอร์เซ็นต์ในแชมเปี้ยนส์ลีก รวมทั้ง93.4 เปอร์เซ็นต์ในศึกยูโร2020
ก็องเต้ ตัวรุกชาวฝรั่งเศสปฏิบัติภารกิจได้สะดุดตากับการรับบทบาทกองกลางตัวรับในลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ภายหลังจากสกัดโดนบอลได้ถึง 2.6ครั้งต่อเกม โดยถึง แม้ว่าในแชมเปี้ยนส์ลีก จะทำเป็นเพียงแต่ 0.8 ครั้งต่อนัดหมาย
แต่ว่าในศึก ยูโร2020 กับทีมชาติฝรั่งเศสเขาสามารถทำอย่างงั้นได้ถึง 2.5 คราวต่อเกมอย่างยิ่งจริงๆ สำหรับในการตัดบอลแบบไม่ต้องพุ่งเสียบนั้น ก็องเต้ ก็มีตัวเลขด้านนั้น กับการเล่นในพรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 2020-21 มากถึง 2ครั้งต่อเกม
ในตอนที่ ในแชมเปี้ยนส์ลีก อยู่ที่ 1.1 ครั้งต่อนัดหมาย ส่วนในยูโร 2020 เขาทำอย่างงั้นได้ 3.5ครั้งต่อเกม ในช่วงเวลาที่การจ่ายบอล ก็องเต้ ก็มีเปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลได้ไม่น้อยหน้า จอร์จินโญ่มากสักเท่าไรนัก
ภายหลังจากผ่านบอลเข้าเป้าในลีกถึง 86.5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใน แชมเปี้ยนส์ลีก เขาทำแบบงั้นได้ 86.3เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งกับทีมชาติฝรั่งเศสในยูโร2020 นั้น จำนวนด้านนี้ของเขาอยู่ในระดับ 91.5เปอร์เซ็นต์
