เรือใบฟอร์มร้อน แซงขึ้นรองจ่าฝูงมีคะแนนเท่ากับเลสเตอร์

เรือใบฟอร์มร้อน เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ท้ายที่สุดของคืนวันอาทิตย์ที่ 17 เดือนมกราคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนเกมรั้งชั้น 5 เปิดรังจัดการ คริสตัล พาเลซ ชั้น 13 ซึ่งเกมนี้ถ้าเกิด เรือใบสีฟ้า คว้าชัยจะแซงทั้งยัง สเปอร์ส หงส์แดง และก็เลสเตอร์ ขึ้นรองหัวหน้าฝูงในทันที

เป๊ป พาทีมชนะในลีกมา 4 นัด ติด เกมปัจจุบันแทรกไบรท์ตัน 1-0 แมตช์นี้ใช้สามแนวรุกเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง กาเบรียล เชซุส แล้วก็ แบร์นาร์โด้ สิลวา ส่วนทางฝั่ง รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือวัยเก๋าไม่แพ้มา 3 นัด ติดในลีกปัจจุบันเสมอกับ อาร์เซน่อล 0-0 เกมนี้เน้นย้ำมา รัดกุมวางทีเด็ดอย่าง จอร์แดน อายิว เป็นหน้าเป้าโดยมี เอเบเรชี่ เอเซ่ แล้วก็แอนดรอคอยส ทาวน์เซนด์

เรือใบฟอร์มร้อน

ครึ่งแรก ถึงแม้เรือใบ จะครอบครองเกมได้สะอาด แต่ว่ายังหาโอกาส ยิงจะๆยังมิได้ จำต้องคอยถึง นาทีที่ 21 แปลงเป็น ดิ อีเกิ้ลส์ ที่ได้ลุ้นจากจังหวะซัดนอกกรอบของ เอเบเรชี่ เอเซ่ แต่ว่าบอลเหาะคานไปไกล

นาที 24 ทัพเรือใบโหมบุกเข้าใส่อีก ตอนนี้ สเตอร์ลิง ซัดไปติดบล็อค ก่อนกระเด้งมาเข้าทาง อิลคาย กุนโดกัน ยิงไปติดแนวรับพาเลซอีก ก่อนจังหวะในที่สุด เควิน เดอ บรอยน์ เก็บบอลได้แต่ว่าจังหวะอัดด้วยขวาก็ยังไม่ผ่านบล็อคของทีมเยือน

หลังพับสนามบุกอยู่นาน นาที 28 เรือใบสีฟ้า มาพังทลายประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ บอลจาก สเตอร์ลิง ขวางมาขวาให้ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดแบบไซด์ก้อยเข้าไปอย่างเหนือชั้นให้ จอห์น สโตนส์ เทกขึ้นกระแทกจ่ายบอลผ่าน บิเซนเต้ ไกวต้า เข้าไปตุงตาข่าย

นาที 35 เดอ บรอยน์ เรียกฟรีคิกได้นอกกรอบ อิลคาย กุนโดกัน วิ่งมาปั่นด้วยขวา ผ่านกำแพงเหาะออกหลังไป

ก่อนหมดครึ่งแรก อีก 5 นาทีต่อมา แบร์นาร์โด้ สิลวา เปิดมาเสาแรกให้ อิลคาย กุนโดกัน โหม่งเสยไปหลังให้ กาเบรียล เชซุส พุ่งกระแทกแต่ว่ายังไปตรงตัว บิเซนเต้ ไกวต้า

หงส์แดงไม่ชนะมา 4 เกมแล้ว อันดับหล่นไปอยู่ที่ 4 

กลับมาเล่นกันต่อช่วงหลัง นาที 57 แมนฯสิตี้ ทะยานออกนำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ อิลคาย กุนโดกัน แย่งบอลจาก แอนดคอยส ทาวน์เซนด์ ได้นอกกรอบก่อนแต่งเข้าขวาปั่นกว่า 20 หลาบอลโค้งหนีมือ ไกวต้า พุ่งทิ่มสามเหลี่ยมอย่างสวยหยด

เรือใบฟอร์มร้อน

นาที 64 เจ้าบ้านแทบได้เม็ดที่สามหนีห่าง กาเบรียล เชซุส ไหลคืนให้ เควิน เดอ บรอยน์ ทดลองซัดด้วยขวาเสาไกล บอลพุ่งถากเสาออกไปแบบได้ลุ้น

เรือใบสีฟ้า มาได้ประตูที่สามนำห่าง 3-0 หลังนาที 67 ได้ลูกเตะมุมขวา เควิน เดอ บรอยน์ เปิดมาให้ รูเบน ดิอ๊าส กระแทกไปติดเซฟไกวต้า บอลมาเข้าทาง จอห์น สโตนส์ ซ้ำด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย รวมทั้งเป็นประตูที่สอง ของเจ้าตัวในเกมนี้

นาที 89 เฟร์ราน ตอร์เรส เรียกฟรีคิกนอกกรอบ ก่อนที่จะเป็น สเตอร์ลิง ปั่นฟรีคิกไม่ถึง 18 หลาบอลโค้งผ่านกำแพง แทงสามเหลี่ยมอย่างงดงาม ให้ เรือใบ นำลิ่วถึง 4-0

เวลาที่เหลือ แมนฯสิตี้ ยังพับสนามรุกเข้าใส่ดังเดิม ยิงเพิ่มมิได้ จบเกม แมนฯสิตี้ ไล่ถกระหน่ำเอาชนะ คริสตัล พาเลซ แบบสบายเท้า 4-0 คว้าชัยเป็นเกมที่ 5 ในลีกต่อเนื่องกัน พร้อมแซงขึ้นรองหัวหน้าฝูงมี 35 คะแนนพอๆกับ เลสเตอร์ สิตี้ แต่ว่าลูกได้เสียดีมากกว่า รวมทั้งแข่งขันน้อยกว่า แถมไล่จักจี้ ผีแดง หัวหน้าฝูงเพียงแค่สองคะแนน ส่วนพาเลซ รั้งชั้น 13 ดังเดิมมีอยู่ 23 คะแนน โซลชาแอบนอย | ข่าวฟุตบอล