แข้งค่าตัวสูงลิ่ว เบนฟิก้าสโมสรดังของศึกพรีเมยร่าลีกา โปรตุเกสก็ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาบรรลุข้อตกลงกับลิเวอร์พูล

แข้งค่าตัวสูงลิ่ว เบนฟิก้าสโมสรดังของศึกพรีเมยร่าลีกา โปรตุเกสก็ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาบรรลุข้อตกลงกับลิเวอร์พูล ในการขายดาร์วิน นูนเญซกองหน้าดาวรุ่งให้กับลิเวอร์พูล ได้เป็นที่เรียบร้อย หลังจากในซีซั่น 2021-22 แข้งวัย 22 ปีโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงเกินห้ามใจจนทำไป 34 ประตูจากการลงเล่น 41 นัดในทุกรายการ

ทั้งนี้ เบนฟิก้าแจกแจงซะละเอียดด้วยว่าค่าตัวในเบื้องต้นของนูนเญซ จะอยู่ที่ 75ล้านยูโร และมีอ็อปชั่นที่ถ้าหากเจ้าตัวทำผลงานได้ตรงตามเงื่อนไขครบทุกข้อแล้วนั้น ลิเวอร์พูลก็จะจ่ายเพิ่มอีก 25ล้านยูโร ทำให้มีโอกาสที่ค่าตัวของเขาจะอยู่ที่สูงสุด 100 ล้านยูโรเลยทีเดียว ซึ่งเงินส่วนดังกล่าวถือว่าคุ้มค่าอย่างมากสำหรับ เบนฟิก้า หลังจากพวกเขาเคยควักไป 25 ล้านยูโนในการดึง นูนเญซ มาจากอัลเมเรีย เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี2020

สำหรับเบนฟิก้า เองนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเขาก็สามารถทำเงินจากการขายนักเตะได้เยอะพอตัว ซึ่งวันนี้เราจะย้อนไปดูกันว่า 5 อันดับแรกที่ย้ายออกจากเบนฟิก้า ด้วยค่าตัวสูงที่สุดนั้นมีใครกันบ้าง โดยบอกเลยว่ามีหลายคนที่ย้ายออกไปแล้วทำผลงานได้โดดเด่นสุดๆ

อันดับ5 : เอแดร์ซอน โมราเอส (ไปแมนฯซิตี้) และอั๊กเซล วิตเซิ่ล (ไป เซนิต เซนต์ ปีเตอร์ส เบิร์ก) – 40ล้านยูโร สำหรับ เอแดร์ซอน นั้น คงไม่มีใครกังขาถึงคุณภาพของเขาอีกต่อไป เพราะนับตั้งแต่ที่เก็บถุงมือออกจาก เบนฟิก้า ไปเฝ้าเสาให้กับแมนฯซิตี้ เมื่อปี 2017 เขาก็กลายเป็นกำลังหลักให้กับ “เรือใบสีฟ้า”

จนทำให้ทีมได้แชมป์เป็นกอบเป็นกำ รวมถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนายทวารชั้นยอดของโลกฟุตบอลในตอนนี้จนถ้าจะบอกว่าค่าตัว 40 ล้านยูโรมันไม่แพงเกินไปก็คงจะไม่ผิด โดยตัว เอแดร์ซอน เคยอยู่กับอะคาเดมี่ของ เบนฟิก้า ในระหว่างปี 2009-2011 ก่อนจะกลับมาอยู่กับทีมในปี 2015 แล้วจากนั้นถึงค่อยไปซบ แมนฯซิตี้

ส่วนรายของวิตเซิ่ลนั้น เบนฟิก้ายอมทุ่มเงินดึงเขามาร่วมทีมเมื่อปี 2011 ทั้งที่ตอนนั้นเจ้าตัวเพิ่งผ่านการเล่นให้ สต็องดาร์ ลีแอช มาแค่ทีมเดียว และเขาก็เก็บข้าวของไปเล่นที่ เซนิต ต่ออย่างรวดเร็วในปีต่อมา โดยค่าตัวตอนย้ายเข้ากับย้ายออกของเขามันเท่ากันเป๊ะ ข่าวบอล

 

เบนฟิก้าแจกแจงซะละเอียดด้วยว่าค่าตัวในเบื้องต้นของนูนเญซ

แข้งค่าตัวสูงลิ่ว อันดับ4 : เนลซอน เซเมโด้ (ไปบาร์เซโลน่า) – 40.7ล้านยูโร เบนฟิก้าได้ตัว เซเมโด้มาตั้งแต่ตอนที่เขายังเป็นเยาวชน และปลุกปั้นเขาเป็นอย่างดีจนทำให้เจ้าตัวได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2015-16 ซึ่งพอผ่านไปสักพักเขาก็สามารถครองตำแหน่งตัวจริงของทีมได้

จนมีส่วนช่วยให้ทีมได้แชมป์ลีก 2สมัย, โปรตุกีสคัพ 1ครั้ง, โปรตุกีสลีกคัพ 1หน และโปรตุกีส ซูเปอร์คัพ 1สมัย ผลงานระดับนั้นทำให้เขาเป็นแนวรับที่ถูกจับตามองมากคนหนึ่ง ส่งผลให้ ในช่วงซัมเมอร์ ปี2017 บาร์เซโลน่ายอมจ่ายเงิน 30.5 ล้านยูโรเพื่อเป็นค่าตัวในเบื้องต้นของเขา

พร้อมกับมีเงื่อนไขที่จะจ่ายเพิ่มอีก 5 ล้านยูโรในต่อทุกๆ 50 นัดที่ เซเมโด้ได้ลงสนาม น่าเศร้าที่ชีวิตในแคว้นกาตาลุนย่ามันไม่ได้สวยงามเท่าไหร่นัก แม้ว่าเขาจะได้สัมผัสกับแชมป์ลาลีกา 2สมัย, โกปา เดล เรย์ 1ครั้ง และสแปนิช ซูเปอร์คัพ 1หน แต่มันไม่มีฤดูกาลไหนเลยที่เขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริง

ในเกมลีกให้กับทีมถึงหลัก 25 นัดเป็นอย่างต่ำ ทำให้เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี2020 เขาโดนขายให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส พร้อมกับถูกบางคนยกให้เป็นหนึ่งในตราบาปของบาร์เซโลน่า จากยุคของ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ที่ใช้เงินไปเยอะเกินเหตุจนส่งผลให้ทีมมีปัญหามาจนถึงปัจจุบัน

อันดับ3 : ราอูล ฮิเมเนซ (ไป วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส) – 41ล้านยูโร ตอนที่เบนฟิก้า ตัดสินใจจ่ายเงิน 21.8 ล้านยูโรเพื่อเอาเขามาจาก แอตเลติโก มาดริด เมื่อช่วงกลางปี 2016นั้น หลายคนก็แปลกใจว่าทำไมพวกเขาถึงยอมควักเงินถึงระดับนั้นให้กับนักเตะที่เพิ่งเล่นในลาลีกา ได้แค่ฤดูกาลเดียว

และทำได้เพียง 1 ประตูจากการลงเล่น 28 นัดในทุกรายการ ทั้งนี้ เงินจำนวน21.8 ล้านยูโรถือเป็นการเสริมทัพที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเบนฟิก้า ในตอนนั้นด้วย ซึ่งในฐานะกองหน้าแล้วนั้นผลงานของเขาก็ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ เพราะยิงได้เพียง 31 ประตูจากการลงเล่น 120 นัดในทุกรายการ

ทำให้ในช่วงซัมเมอร์ ปี2018 เบนฟิก้า ยอมปล่อยเขาไปอยู่กับวูล์ฟส์ ด้วยสัญญายืมตัว ที่นี่เองที่ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับ ฮิเมเนซ เพราะเขาทำได้ 13 ประตูจากการลงเล่นในลีก 38นัด ทำให้วูล์ฟส์ ใช้อ็อปชั่นซื้อขาดเขาด้วยค่าตัว 41ล้านยูโร เมื่อช่วงเดือนเมษายนปี 2019 และนั่นก็เป็นการขายนักเตะได้สูงเป็นสถิติของเบนฟิก้า ในตอนนั้นเช่นกัน

 

แข้งค่าตัวสูงลิ่ว อันดับ2 : รูเบน ดิอาส (ไปแมนฯซิตี้) – 68ล้านยูโร ดิอาสเติบโตมาจากอะคาเดมี่ของเบนฟิก้า เขาขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้เป็นครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 2017-18 และเล่นได้สุดยอดจนกลายเป็นกำลังสำคัญคนหนึ่งของทีมทันที โดยเขาได้ลงเล่นในทุกรายการไป 30เกม, 55นัด และ49ครั้ง ในซีซั่น 2017-18, 2018-19 และ2019-20 ตามลำดับ

สมัยที่เล่นให้ เบนฟิก้านั้น ดิอาสถึงขั้นมีดีกรีหลายอย่างด้วย อาทิเช่น การเป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพรีเมยร่าลีกา ประจำฤดูกาล2017-18 ติดทีมยอดเยี่ยมของพรีเมยร่าลีกา ซีซั่น2019-20 และกองหลังยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมยร่าลีกา 3สมัย ทำให้แมนฯซิตี้ ยอมทุ่มเงินถึง 68ล้านยูโร

เพื่อซื้อเขาไปเสริมแกร่ง และจนถึงตอนนี้มันก็เรียกได้ว่านี่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสุดๆ อันดับ1 : ชูเอา เฟลิกซ์ (ไป แอตมาดริด) – 126ล้านยูโร เฟลิกซ์ เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่มีอนาคตสดใสมากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งมันก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนจะพูดถึงเขาแบบนั้น

เพราะสมัยเล่นให้ เบนฟิก้า เจ้าตัวโชว์ลีลาได้น่าประทับใจจนถึงขนาดที่ทำไป 20 ประตูจากการลงเล่น 43 นัดในทุกรายการเมื่อซีซั่น 2018-19 ทั้งที่นั่นเพิ่งเป็นฤดูกาลแรกที่เขาขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ เบนฟิก้าได้ ด้วยเหตุนี้ มันเลยเป็นเรื่องธรรมดาที่ตอนนั้นหลายทีมจะพยายามจีบ เฟลิกซ์ ไปร่วมทัพให้ได้

ก่อนที่เบนฟิก้า จะยอมเสียเพชรเม็ดงามจากอะคาเดมี่ของพวกเขาให้ แอต.มาดริด ในช่วงกลางปี 2019 หลังจากตอนนั้นทีมของกุนซือ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ บ้าเลือดจนยอมจ่ายเงินถึง 126ล้านยูโร จนทำให้ เฟลิกซ์ กลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวสูงที่สุดเป็นอันดับ 4 ในโลกลูกหนัง โดยรูปแบบการจ่ายเงินนั้น

แอต. มาดริด โอนเงินในตอนนั้นทันที 30 ล้านยูโร ก่อนที่จะค่อยๆ ทยอยจ่ายในส่วนที่เหลือ สำหรับปัจจุบันนั้นก็คงต้องบอกว่าแข้งวัย 22ปี ยังไม่สามารถเล่นได้คู่ควรกับการมีค่าตัวสูงระดับนั้น โดยตลอดการเล่นในลาลีกา 3 ฤดูกาลที่ผ่านมาเขาเพิ่งทำไปเพียง 21 ประตูจากการลงสนาม 82เกม

แข้งค่าตัวสูงลิ่ว แถมทำได้เพียง 10 แอสซิสต์เท่านั้นด้วย แต่เขาก็ยังพอมีโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเองได้อยู่ และมันก็ขึ้นอยู่กับเขาเองที่จะทำอย่างนั้นได้หรือไม่ ทุ่มเงินจำนวนมาก