แมนยูงานเบา เชื่อว่าทุกคนทราบกันเรียบร้อย สำหรับผลการจับสลากแบ่งกลุ่มศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ประจำฤดูกาล 2021/22

แมนยูงานเบา เชื่อว่าทุกคนทราบกันเรียบร้อย สำหรับผลการจับสลากแบ่งกลุ่มศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ประจำฤดูกาล 2021/22 ซึ่งเพิ่งมีขึ้นเมื่อช่วงคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า มีหลายกลุ่มเลยทีเดียว ที่น่าสนใจ

แต่ในขณะที่บางกลุ่มนั้น เราสามารถมองเห็นทีมที่จะผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ได้แบบทันที ว่าแล้วจึงถือโอกาสฟันธงดูเล่นๆ ในแต่ละกลุ่มว่า มีทีมใดบ้างที่น่าจะได้ไปต่อ กลุ่มเอ : แมนเชสเตอร์ซิตี้(อังกฤษ), ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส), แอร์เบ ไลป์ซิก (เยอรมนี), คลับ บรูช (เบลเยียม)

ฟ้าอาจจะลิขิตให้เราได้เห็นลิโอเนล เมสซี่ดวลกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ในกลุ่มนี้ก็ได้ ถ้าหากโรนัลโด้ ทำเซอร์ไพรส์ ย้ายจาก ยูเวนตุส มาร่วมทัพ “เรือใบสีฟ้า” จริงๆ ซึ่งแน่นอนว่า กลุ่มนี้ แมนฯซิตี้ กับ เปแอสเช ดูโดดเด่นกว่าใครเพื่อนในทุกๆ ด้าน

ถึงแม้ แอร์เบ ไลป์ซิก ยังคงเป็นทีมที่อันตราย โดยเฉพาะยามได้เล่นในบ้านตัวเอง ส่วน คลับ ครูช คงจะเป็นทีมที่ใครๆ ก็หวังจะโกยแต้มอย่างไม่ต้องสงสัย ฟันธงทีมเข้ารอบ : 1. แมนเชสเตอร์ซิตี้, 2. ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

กลุ่มบี : แอตเลติโก มาดริด (สเปน), ลิเวอร์พูล(อังกฤษ), ปอร์โต้ (โปรตุเกส), เอซี มิลาน (อิตาลี) ชั่งน้ำหนักดูแล้ว กลุ่มนี้ถือเป็น “กรุ๊ป ออฟ เดธ” เลยก็ว่าได้ เพราะศักยภาพของแต่ละทีมใกล้เคียงกัน ถึงแม้ ปอร์โต้ ดูด้อยกว่าเพื่อนก็ตาม

แน่นอนว่าลิเวอร์พูล หากเล่นได้ตามมาตรฐานที่ยอดเยี่ยมของตัวเอง (ที่ไม่ใช่ฟอร์มฤดูกาลที่แล้ว) ก็มีโอกาสดีที่จะผ่านเข้ารอบ ส่วน แอต. มาดริด ของกุนซือ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ที่มี หลุยส์ ซัวเรซ เป็นตัวหลักแดนหน้า เก๋าเกมอยู่แล้วในรายการนี้

ขณะที่ มิลาน ซึ่งได้กลับมาเตะถ้วยนี้หนแรกในรอบ 7 ปี ก็เป็นทีมที่แข็งแกร่ง แถมได้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ มาเป็นตัวทีเด็ดในแดนหน้า แต่ดูแล้วยังเป็นรอง “หงส์แดง” กับ “ตราหมี” อยู่หน่อยๆ ดังนั้นกลุ่มนี้น่าจะลุ้นกันสนุก แต้มไม่น่าขาด โดยที่มี ปอร์โต้ เป็นตัวแปรสำคัญ

ฟันธงทีมเข้ารอบ : 1. ลิเวอร์พูล, 2. แอตเลติโก มาดริด กลุ่มซี : สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส), โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี), อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์), เบซิคตัส (ตุรกี) เป็นอีกกลุ่มที่ดูยากมาก

แมนยูงานเบา แน่นอนว่าดอร์ทมุนด์ ที่มี เออร์ลิง ฮาแลนด์ เป็นเครื่องจักรสังหารในแดนหน้า เป็นทีมที่น่ากลัวกว่าใครเพื่อน แม้ไม่มี เจดอน ซานโช แล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็มีจุดอ่อนอยู่ที่เกมรับ และพร้อมเสียประตูให้กับทุกทีม ข่าวบอล

แมนยูงานเบา

ฟ้าอาจจะลิขิตให้เราได้เห็น ลิโอเนล เมสซี่ ดวลกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในกลุ่มนี้ก็ได้

แมนยูงานเบา อย่างไรก็ตามถ้าพวกเขาลดความผิดพลาดจุดนี้ลงได้ ก็น่าจะผ่านเข้ารอบ ส่วนอีกหนึ่งโควต้าน่าจะเป็น อาแจ็กซ์ แต่บอกเลยว่า ทั้ง ดอร์ทมุนด์ และ อาแจ็กซ์ หืบจับแน่นอน เพราะพวกเขาเองก็สามารถพลาดท่าให้กับ สปอร์ติ้ง และ เบซิคตัส เช่นกัน

โดยเฉพาะเกมเยือน ฟันธงทีมเข้ารอบ : 1. โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, 2. อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม กลุ่มดี : อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี), เรอัล มาดริด (สเปน), ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (ยูเครน), เชอริฟฟ์ ติราสปอล (มอลโดวา)

ช่างบังเอิญเสียเหลือเกินที่ อินเตอร์, เรอัล มาดริด และ ชัคตาร์ ถูกจับอยู่กลุ่มเดียวกันเหมือนกับฤดูกาลที่แล้ว ที่เปลี่ยนไปก็แค่ได้ เชอริฟฟ์ ตัวแทนจากมอลโดวา มาแทนที่ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เท่านั้น

อินเตอร์ มีผลงานไม่ค่อยดีในระยะหลังกับการเล่นถ้วยนี้ อย่างในฤดูกาลก่อนก็จบด้วยการรั้งบ๊วย แต่เที่ยวนี้พวกเขาน่าจะได้ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์พร้อมๆ กับ “ราชันชุดขาว” ที่ถือเป็นเต็ง 1 ของกลุ่ม ส่วน เชอริฟฟ์ แค่มีสักแต้ม

ก็ถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของสโมสรแล้ว ฟันธงทีมเข้ารอบ : 1. เรอัล มาดริด, 2. อินเตอร์ มิลาน กลุ่มอี : บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี), บาร์เซโลน่า (สเปน), เบนฟิก้า (โปรตุเกส), ดินาโม เคียฟ (ยูเครน)

นี่ก็เป็นอีกกลุ่มที่น่าดูมากๆ เพราะมี บาเยิร์น กับ บาร์ซ่า อยู่ด้วยกัน โดย “เสือใต้” แม้เปลี่ยนตัวกุนซือจาก ฮันซี่ ฟลิค มาเป็น ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ แถมฟอร์มการเล่นยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง (ไม่นับเกมล่าสุดที่ยำโหดใส่ทีมสมัครเล่น 12-0 ในถ้วย เดเอฟเบ โพคาล)

แต่พวกเขาก็ยังดูดีกว่าใคร ขณะที่ บาร์เซโลน่า ตอนนี้ไม่มีลิโอเนล เมสซี่แล้ว คงลดความน่ากลัวลงไปไม่น้อย แต่พวกเขาก็น่าจะควง “เสือใต้” ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ ถึงแม้การเยือน เบนฟิก้า และ ดินาโม เคียฟ ไม่ใช่งานง่ายเลยก็ตาม

ฟันธงทีมเข้ารอบ : 1. บาเยิร์น มิวนิค, 2. บาร์เซโลน่า กลุ่มเอฟ : บียาร์เรอัล (สเปน), แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด(อังกฤษ), อตาลันต้า (อิตาลี), ยัง บอยส์ (สวิตเซอร์แลนด์) จุดสนใจของกลุ่มนี้หนีไม่พ้นการที่แมนฯยูไนเต็ด มีโอกาสได้ถอนแค้น

บียาร์เรอัล หลังจากที่พวกเขาพ่ายดวลจุดโทษต่อทีมของกุนซือ อูไน เอเมรี่ ในเกมรอบชิงฯ ถ้วยยูฟ่ายูโรปาลีก ซีซั่นที่แล้ว แน่นอนว่าการแข่งขันระดับนี้ ไม่มีคำว่า “ง่าย” แต่ถ้าไม่ประมาทหรือห่วยเอง ดูแล้ว “ปีศาจแดง” คงจะผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ได้ไม่ยาก

และมีแววเป็นแชมป์กลุ่มด้วย ขณะที่ บียาร์เรอัล กับ อตาลันต้า ดูยากมาก เพราะต่างมีดีพอๆ กัน แต่ “เรือดำน้ำสีเหลือง” มีเกมรับที่มั่นคงกว่า น่าจะได้เข้ารอบตามแมนฯยูไนเต็ด ส่วน ยัง บอยส์ คงรั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่ม

ฟันธงทีมเข้ารอบ : 1. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, 2 บียาร์เรอัล กลุ่มจี : ลีลล์ (ฝรั่งเศส), เซบีย่า (สเปน), เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย), เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมนี) อาจไม่ใช่กลุ่มที่น่าดูสุด แต่เป็นกลุ่มที่ “บาลานซ์” สุด

เพราะคุณภาพของทั้งสี่ทีมนี้ แทบไม่ได้ต่างกันเลย แต่ เซบีย่า แกร่งและเก๋าเกมมากๆ ในเวทียุโรป น่าจะเป็นแชมป์ของกลุ่ม ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งโควต้า คงเบียดกันสนุก แต่ ลีลล์ ซีซั่นนี้ดูอ่อนลงไปชัดเจน ส่วนตัวแล้วพวกเขาอาจเป็นบ๊วยของกลุ่มด้วยซ้ำ

ดังนั้นขอฟันธงว่า โวล์ฟสบวร์ก จะเบียด ซัลซ์บวร์ก เข้ารอบตาม เซบีย่า ฟันธงทีมเข้ารอบ : 1. เซบีย่า, 2. เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก กลุ่มเอช : เชลซี(อังกฤษ), ยูเวนตุส (อิตาลี), เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย), มัลโม่ (สวีเดน)

เป็นกลุ่มที่เห็นภาพชัดเจน ดังนั้นแชมป์เก่าอย่างเชลซี และ ยูเวนตุส น่าจะกอดคอกันเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายไม่ยาก โดยเฉพาะ “สิงห์บลูส์” ซีซั่นนี้โหดกว่าเดิมด้วย หลังจากที่ได้ โรเมลู ลูกากู คืนถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ขณะที่ ยูเว่ ต่อให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายออกไป

แมนยูงานเบา ยังไงพวกเขาก็ไม่น่าพลาด เมื่อมองถึงศักยภาพและขุมกำลังนักเตะภายในทีม เพราะ เซนิต กับ มัลโม่ คงสู้ไม่ได้อยู่แล้ว ฟันธงทีมเข้ารอบ : 1. เชลซี, 2. ยูเวนตุส เวนเกอร์รู้อนาคต