กอร์เรอาฮีโร่ กอร์เรอาศูนย์หน้าป้ายแดงเปลี่ยนเป็นซูเปอร์ดูดซึมข้างหลังสวมบทวีรบุรุษลงมาเหมาผู้เดียวสองประตูพา อินเตอร์ มิลาน บุกมาเอาชนะเวโรน่า 3-1

กอร์เรอาฮีโร่ ฮัวกิน กอร์เรอา ศูนย์หน้าป้ายแดงเปลี่ยนเป็นซูเปอร์ดูดซึมข้างหลังสวมบทวีรบุรุษลงมาเหมาผู้เดียวสองประตูพา อินเตอร์ มิลาน บุกมาเอาชนะ เวโรน่า 3-1 พา “งูใหญ่” ซิวชัยสองนัดรวด มี 6 แต้มเต็มขึ้นนำหัวหน้าฝูง

ศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันศุกร์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันศุกร์ที่ 27 เดือนสิงหาคมก่อนหน้านี้ เป็นเกมนัดหมายลำดับที่สองของฤดูกาล เจ้าของบ้าน เวโรน่า ซึ่งเกมแรกพ่ายแพ้ ซาสซูโอโล่ คาถิ่น 2-3

ยังได้เล่นใน มาร์ค อันโตนิโอ เบนเตโกดี้ รังเหย้าของตนเองรับการมาเยือนของ “แชมป์เก่า” อินเตอร์มิลานที่เปิดหัวด้วยการถล่ม เจนัว 4-0 ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ จัด มัตเตโอ กานเซลเลียรี่ เป็นหน้าเป้า โดยมี อันโตนิน บารัค

แล้วก็ มัตเตีย ซัคคายี่ ปั้นเกมส่งเสริม ส่วนทางฝั่ง “งูใหญ่” ที่มี ซิโมเน่ อินซากี้ ผู้จัดการทีมคนใหม่ เปิดฉากครั้งแรกอย่างเร่าร้อนสมราคาแชมป์เก่า แม้ว่าจะไม่มี โรเมลู ลูกากู ที่ขายไปให้ เชลซี ไปสุดแท้แต่ได้ เอดิน เชโก้ ที่เปิดหัวก็พังทลายตาข่ายได้เสร็จ

โดยเกมนี้ให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ยืนหน้าต่ำ โดยมี อิวาน เปริซิช แล้วก็ฮาคาน ชัลฮาโนกลู ปั้นเกมร่วมแดนกลาง เริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 15 นาทีแรก แชมป์เก่าอินเตอร์มิลาน เปลี่ยนเป็นข้างตามหลังเจ้าถิ่นเวโรน่า จากความบกพร่องของแนวรับไอ้งูใหญ่

จากจังหวะที่ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ส่งบอลสั้นหน้าปากประตูตนเองให้ โบรโซวิช แต่ว่าโดนหน้าแข้งเจ้าถิ่นตัดบอลได้ก่อนเลยมาถึง อิวาน อิลิช หลุดเข้าไปชิพผ่านตัว ฮันดาโนวิช นายด่านเนรัซซูรี่เข้าไปอย่างเหนือชั้นให้ เวโรน่า ขึ้นนำ 1-0

นาที23 บอลสวนกลับของ อินเตอร์ฯ แทบได้ลุ้นข้างหลัง มาร์เซโล่ โบรโซวิช วางบอลยาวให้ ฮาคาน ชัลฮาโนกลู หลุดขึ้นไปทางด้านซ้ายก่อนครอสมาหน้ากรอบให้ นิโกโล่ บาเรลล่า เพิ่มเติมขึ้นมากระแทกบอลหลุดเสาออกไป

นาที39 เอดิน เชโก้ กระชากถึงเส้นข้างหลังก่อนล็อคแล้วเปิดด้วยซ้ายมาเสาไกลให้ อิวาน เปริซิช โถมมากระแทกเข้ากึ่งกลางให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ เทกขึ้นแทรกกับ โลเรนโซ่ มอนติโป จนกระทั่งนายด่านเจ้าถิ่นออกมาคว้าบอลหลุดมือเข้าประตูตนเอง

กอร์เรอาฮีโร่ แต่ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะฟาวล์ของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ไปก่อนทำให้ไม่ได้ประตูตีเสมอ ข่าวบอล

กอร์เรอาฮีโร่

จบครึ่งแรก เวโรน่า ขึ้นนำ อินเตอร์ มิลาน 1-0

กอร์เรอาฮีโร่ กลับมาบู๊กันต่อในช่วงหลัง แค่เพียงนาที 47 “งูใหญ่” มาทวงประตูไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ จากจังหวะทุ่มไกลเข้ามาให้ เอดิน เชโก้ โฉบมากระแทกถูเข้ากึ่งกลางประตูให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ กระแทกระยะเผาขนแสกหน้า โลเรนโซ่ มอนติโป เข้าไป เป็นประตูที่ 50

รวมทุกรายการในสีเสื้ออินเตอร์มิลาน นาที55 สมาชิกของ ซิโมเน่ อินซากี้ เกือบจะกลับแซงขึ้นนำ บอลทุ่มไกลอีกแล้ว ครั้งนี้ทุ่มมาเสาแรกให้ เชโก้ เจ้าเดิมเช็ดมาให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ วิ่งมาวอลเลย์ถากเสาแรกออกไปอย่างโชคร้าย

นาที 67 กองทัพเนรัซซูรี่ ได้ลุ้นอีกรอบ มัตเตโอ ดาร์เมียน ครอสบอลมาหน้าปากประตู อเลสซานโดร บาสโตนี่ ขึ้นกระแทกแม้กระนั้นบอลโดน โลเรนโซ่ มอนติโป พุ่งไปออกไป ไม่ถึงนาทีต่อมาบอลตลอดจากลูกเตะมุม ชัลฮาโนกลู เปิดมาเข้าหัว

อาร์ตูโร่ วิดาล ไปตรงตัวมอนติโปอีก นาที 74 ซิโมเน่ อินซากี้ แก้เกมอีกถอดเอา เลาตาโร่ มาร์ติเนซ คนทำคะแนนตีเสมออกแล้วส่ง ฮัวกิน คอร์เรอา หน้าแข้งตัวใหม่เปิดฉากครั้งแรกข้างหลังพึ่งลงซ้อมกับทีมได้เพียงแค่วันเดียว

นาที 84 แฟนงูมาเฮกันลั่น ข้างหลัง อินเตอร์ มิลาน พลิกแซงนำเจ้าของบ้าน 2-1 จากจังหวะที่ มัตเตโอ ดาร์เมียน ครอสบอลใกล้มุมธงเข้ามาหน้าประตู ฮัวกิน กอร์เรอา ผู้เล่นสำรองที่เพิ่งจะลงมาได้เพียงแค่ 10 นาที ขึ้นกระแทกจ่ายบอลซุกก้นตาข่าย

พังทลายสกอร์แรกให้เนรัซซูรี่นับจากเปิดฉากสนามเลย ตอนทดเจ็บ นาที 90+4 ฮัวกิน คอร์เรอา มาออกฤทธิ์ออกเดชโชว์ความยอดเยี่ยม ข้างหลังซัดประตูลำดับที่สองของตน เมื่อสับไกด้วยซ้ายซัดแทงมุมเข้าไปอย่างเด็ดขาด ให้อินเตอร์มิลาน นำห่าง 3-1

เป็นประตูปิดกล่อง ก่อนต่อมาไม่กี่วินาที ผุ้วินิจฉัยจะเป่าจบเกมสรุปว่า “งูใหญ่” กลับแซงบุกมาเอาชนะ เวโรน่า 3-1 เก็บชัยสองนัดหมายรวด มี 6 แต้มเต็มนำผู้นำฝูง รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เวโรน่า (3-4-2-1) : โลเรนโซ่ มอนติโป – จิอันเจียโคโม่ แม็คนานี่,

โคราย กึนเทอร์, เฟเดริโก้ เชคเครินี่ – ดาวิเด้ ฟาราโอนี่, มาร์ติน ฮอนกลา, อิวาน อิลิช, ดาร์โก ลาโซวิช – อันโตนิน บารัค, มัตเตีย ซัคคายี่ – มัตเตโอ กานเซลเลียรี่ เทรนเนอร์ : ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ อินเตอร์ มิลาน (3-5-1-1) : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช – มิลาน สครินเนียร์,

กอร์เรอาฮีโร่ สเตฟาน เดอ ฟราย, อเลสซานโดร บาสโตนี่ – มัตเตโอ ดาร์เมียน, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, นิโกโล่ บาเรลล่า, ฮาคาน ชัลฮาโนกลู, อิวาน เปริซิช – เลาตาโร่ มาร์ติเนซ – เอดิน เชโก้ เทรนเนอร์ : ซิโมเน่ อินซากี้ ทุบสถิติ